UN ชี้ 10 ปี อคติทางเพศแทบไม่เปลี่ยน ครึ่งโลกเชื่อ 'ผู้หญิงด้อยกว่าผู้ชาย'

สำนักข่าวรอยเตอร์ เปิดเผยผลวิจัยล่าสุดของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แสดงให้เห็นว่า ผู้ชาย และผู้หญิงเกือบ 9 ใน 10 คน มีอคติต่อต้านผู้หญิง และสัดส่วนผู้คนที่มีอคติเกี่ยวกับเพศอย่างน้อย 1 เรื่อง แทบไม่เปลี่ยนทัศนคติตลอดสิบปีที่ผ่านมา

จากการสำรวจ 38 ประเทศ สัดส่วนผู้คนที่มีอคติเกี่ยวกับเพศอย่างน้อย 1 เรื่อง ลดลงเหลือเพียง 84.6% จากเดิม 86.9%

“เฮริแบร์โต ทาเปีย” ที่ปรึกษาด้านการวิจัย และหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ จากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) และผู้ร่วมเขียนรายงาน บอกว่า ระดับการปรับเปลี่ยนทางทัศนคติที่ผ่านมายังไม่น่าพอใจ

ผลสำรวจยังย้ำด้วยว่า ประชากรเกือบครึ่งโลกคิดว่าผู้ชายเป็นผู้นำทางการเมืองได้ดีกว่า ขณะที่ผู้คนอีก 43% คิดว่าผู้ชายเป็นผู้บริหารธุรกิจได้ดีกว่าเช่นกัน

“อารัว ซานติอาโก” ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศสภาพในเศรษฐกิจที่เน้นการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน จากยูเอ็นดีพี แนะนำว่า “เราต้องเปลี่ยนแปลงอคติทางเพศ บรรทัดฐานทางสังคม แต่เป้าหมายสูงสุดคือ การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์เชิงอำนาจระหว่างหญิงและชาย และระหว่างผู้คน”

แม้การศึกษามักถูกยกย่องให้เป็นกุญแจสำคัญ สำหรับการพัฒนาผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจให้กับเพศหญิง แต่ผลสำรวจ เปิดเผยว่า ความเชื่อมโยงไม่สอดคล้องกันระหว่างช่องว่างทางการศึกษา และรายได้ เนื่องจากผู้หญิง และผู้ชายมีช่องว่างรายได้เฉลี่ย 39% แม้ผู้หญิงใน 57 ประเทศที่สำรวจ มีการศึกษาสูงกว่าผู้ชาย

นอกจากนี้ อันตรายโดยตรงที่เกิดขึ้นบ่อยกับสวัสดิภาพผู้หญิง เห็นได้จากความรุนแรง ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 1 ใน 4 คน เชื่อว่าผู้ชายสามารถทุบตีภรรยาได้

ทั้งนี้ ในรายงานล่าสุด ยูเอ็นดีพีติดตามปัญหาจากดัชนีบรรทัดฐานทางสังคมเรื่องเพศ โดยใช้ข้อมูลจากการสำรวจค่านิยมโลก (ดับเบิลยูวีเอส) ที่เป็นโครงการวิจัยนานาชาติ และผลการศึกษาดังกล่าว สุ่มสำรวจจากชุดข้อมูลในปี 2553-2557 และข้อมูลในปี 2560-2565 จากประเทศ และดินแดนที่ครอบคลุมประชากรโลกถึง 85%

 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์