ลูกชายคนเล็กเรียกร้องโลกกดดันทหารเมียนมาปล่อย ‘ออง ซาน ซูจี’

“ผมไม่สามารถปล่อยให้แม่ผมอิดโรยอยู่ในคุกได้อีกต่อไป” อริส กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซี เบอร์มีสในกรุงลอนดอน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมโลกทำอะไรมากกว่านี้ เพื่อช่วยให้มารดาของเขาได้รับการปล่อยตัว

ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างนางซูจี และครอบครัวได้รับผลกระทบโดยตรงจากการที่เธอรณรงค์เรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา โดยนายอริส และอเล็กซานเดอร์ พี่ชายของเขาแทบไม่มีโอกาสได้พบกับแม่เลยตั้งแต่ปี 2531 ซึ่งเป็นช่วงที่นางซูจี กลับไปเมียนมาเพื่อเยี่ยมแม่ที่ป่วย ก่อนที่จะกลายมาเป็นแกนนำในการต่อต้านระบอบเผด็จการทหารในประเทศ

อริส กล่าวด้วยว่า "รัฐบาลทหารเมียนมาจะไม่มีวันชนะสงครามนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเรื่องนี้จะดำเนินไปนานแค่ไหน ยิ่งทหารคืนอำนาจให้แม่ของผม และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้เร็วเท่าไร สิ่งต่างๆ ก็จะเริ่มก้าวหน้าในประเทศเมียนมาได้เร็วเท่านั้น”

“ที่ผ่านมา ผมไม่ต้องการพูดออกสื่อ หรือเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากนัก ผมคิดว่าเป็นการดีกว่าที่อยู่ห่างจากการเมืองในเมียนมา และแม่ผมไม่เคยอยากให้ผมเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในเมียนมา แต่ตอนนี้แม่ถูกจองจำในคุก และก็เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลทหารเมียนมาสั่งจำคุกแม่อย่างไม่มีเหตุผล ผมจึงคิดว่าสามารถพูดในสิ่งที่ควรพูดได้" ลูกชายคนเล็กของนางซูจี กล่าว

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ปี 2565 ศาลรัฐบาลทหารเมียนมา พิพากษาจำคุกนางซูจี เพิ่มอีก 7 ปี ทำให้เธอได้รับโทษจำคุกรวมกันทั้งสิ้น 33 ปี

โดยนางซูจี ถูกกักบริเวณในบ้านพักนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารในเดือนก.พ. ปี 2564 และนับตั้งแต่นั้นมา เธอต้องเผชิญการพิจารณาคดี 18 เดือน ในความผิด 19 ข้อหา ซึ่งองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนชี้ว่าเป็นการพิจารณาคดีจอมปลอม   

 

 

 

       พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์