ธนาคารสิงคโปร์ เจอปัญหาเงินฝากสูง แต่ขาดโอกาสต่อยอด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารสิงคโปร์ มียอดฝากเงินจำนวนมาก แต่มีโอกาสในการนำเงินไปใช้ประโยชน์อย่างจำกัด ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของการปล่อยสินเชื่อที่ซบเซา ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ในสิงคโปร์เปิดให้ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) กู้ยืม
รายงานระบุว่า ประเด็นดังกล่าวเด่นชัดยิ่งขึ้นเมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา โดยเวลานั้นนายไพยุช กุปตา ซีอีโอของธนาคารดีบีเอส (ดีบีเอส) ให้สัมภาษณ์กับนักวิเคราะห์ทางโทรศัพท์ว่า ดีบีเอสได้ให้ธนาคารกลางสิงคโปร์ยืมเงินจำนวน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (2.23 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากไม่สามารถหาโอกาสที่จะนำเงินไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเพียงพอ
สภาพคล่องที่มากเกินไปของสิงคโปร์เป็นผลจากการที่กลุ่มเศรษฐีในเอเชียมองว่าสิงคโปร์เป็นจุดหมายปลายทางการฝากสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะที่ลูกค้าท้องถิ่นแห่นำเงินไปฝากประจำเพราะอัตราดอกเบี้ยที่สูง
อย่างไรก็ดี ธนาคารพาณิชย์สิงคโปร์ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อที่ชะลอตัว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
สำหรับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ธนาคารพาณิชย์ญี่ปุ่น กำลังเผชิญกับสภาพคล่องส่วนเกินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ในญี่ปุ่นแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น แม้ว่าธนาคารพาณิชย์บางแห่งจะหันมาระมัดระวังเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในทางตรงกันข้าม ธนาคารพาณิชย์อินเดีย พยายามที่จะไล่ให้ทันความต้องการสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบทศวรรษ ด้วยการระดมเงินฝากอย่างแข็งขัน
ทั้งนี้ วิลลี ทาโนโต ผู้อำนวยการสถาบันการเงินของฟิทช์ เรทติ้งส์ กล่าวว่า "ตามกลยุทธ์ทางธุรกิจ ธนาคารพาณิชย์จะไม่รวบรวมเงินฝากของลูกค้าเพียงเพื่อฝากไว้ในธนาคารกลาง" พร้อมกล่าวเสริมว่า มีแนวโน้มว่าธนาคารพาณิชย์บางแห่งมียอดเงินฝากมากกว่าที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ในการลงทุนที่เหมาะสมได้ทันที