'อีลอน มัสก์' รวยลดลง 2 หมื่นล้านดอลล์ หลังราคาหุ้นเทสลาร่วงหนัก
ข้อมูลจาก Bloomberg Billionaires Index ระบุว่า ความร่ำรวยของนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา ลดลง 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากราคาหุ้นเทสลาปิดตลาดร่วงลงเกือบ 10% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.)
ความร่ำรวยของนายอีลอน มัสก์ ลดฮวบลงมาอยู่ที่ระดับ 2.344 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลดลงรุนแรงที่สุดเป็นอันดับที่ 7 เมื่อเทียบกับบรรดามหาเศรษฐีที่ได้รับการจัดอันดับใน ดัชนี Bloomberg Billionaires Index และยังทำให้ส่วนต่างความร่ำรวยระหว่างนายมัสก์ และนายเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ เจ้าของบริษัทแอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง ซึ่งเป็นบุคคลร่ำรวยอันดับ 2 ของโลก ขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น โดยขณะนี้นายมัสก์มีความร่ำรวยมากกว่านายอาร์โนลต์อยู่ประมาณ 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาหุ้นเทสลา ดิ่งลง 9.7% ปิดที่ระดับ 262.90 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่า ความสามารถในการทำกำไรอาจจะลดลงอีก นอกจากนี้ นายมัสก์ยังกล่าวว่าเทสลาอาจจะต้องปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าเทสลาลงอีก หากอัตราดอกเบี้ยยังคงปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี นายมัสก์ไม่ใช่มหาเศรษฐกิจด้านเทคโนโลยีรายเดียวของสหรัฐที่เผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก โดยดัชนี Bloomberg Billionaires Index บ่งชี้ว่า
- นายเจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของบริษัทอะเมซอนดอทคอม
- นายแลร์รี เอลลิสัน ซีอีโอของบริษัทออราเคิล
- นายสตีฟ บัลเมอร์ อดีตซีอีโอของบริษัทไมโครซอฟท์
- นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์
- นายแลร์รี เพจ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอัลฟาเบท
มีความร่ำรวยลดลงรวมกัน 2.08 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากดัชนี Nasdaq 100 ร่วงลงกว่า 2%
ทั้งนี้ ดัชนีแนสแด็ก ปิดตลาดร่วงลง 294.71 จุด หรือ -2.05% ในวันพฤหัสบดี (20 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเทสลาและเน็ตฟลิกซ์ สวนทางกับดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดบวก 163.97 จุด หรือ +0.47% ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 9 และทำสถิติขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 2560