แรงงานหญิงในสหรัฐ มีโอกาสโดนเปลี่ยนงานมากกว่าผู้ชาย 1.5 เท่า เพราะ AI

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก อ้างอิงรายงานใหม่ จากหน่วยวิจัยของแมคคินซีย์แอนด์โค ธุรกิจให้คำปรึกษา ที่สำรวจเทรนด์ตลาดแรงงานสหรัฐจนถึงสิ้นปี 2573 และคำนวณออกมา พบว่า แรงงานหญิงมีโอกาสต้องย้ายงานใหม่มากกว่าผู้ชาย 1.5 เท่า ในช่วงเวลาดังกล่าว เนื่องจากผู้หญิงที่ทำงานในอุตสาหกรรมที่มีค่าจ้างต่ำ อาจได้รับผลกระทบจากระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) รวมถึงคนที่ทำงานในแผนกผู้ช่วยสำนักงานและบริการลูกค้า

คนผิวดำและคนเชื้อสายสเปน อาจได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะความต้องแรงงานภาคอาหารและการผลิตลดลง

พนักงานปกขาวหรือพนักงานในออฟฟิศทุกประเภท ตั้งแต่ทนายความและครู ไปจนถึงผู้ให้คำปรึกษาทางการเงินและสถาปนิก อาจเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากการใช้เอไออย่างแพร่หลาย แต่แมคคินซีย์แย้งว่า เอไอจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานนั้น ๆ มากกว่าขจัดตำแหน่งงานเหล่านั้น

 

 

“ไมเคิล ชุย” พาร์ทเนอร์แมคคินซีย์บอกว่า “เอไอไม่ใช่หายนะ แต่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานในทุก ๆ งาน”

นอกจากนี้ สถาบันแมคคินซีย์โกลบอล เผยว่า แรงงานในสหรัฐอย่างน้อย 12 ล้านคน อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนงานภายในปี 2573 และผลประกอบการของธุรกิจจากการขับเคลื่อนปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ อาจกระทบงานหลายล้านตำแหน่ง

รายงานดังกล่าว ระบุอีกว่า งาน 3.5 ล้านตำแหน่งอาจหมดไป เพราะสหรัฐพยายามยุติการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งแรงงานอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันและก๊าซ รวมถึงแรงงานผลิตยานยนต์อาจได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว

แต่แมคคินซีย์ บอกว่า แรงงานกลุ่มนี้จะได้รับการชดเชยจากการปรับเปลี่ยนงานประมาณ 700,000 ตำแหน่ง เพราะธุรกิจพลังงานได้รับประโยชน์จากการสร้างพลังงานหมุนเวียน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการสร้างโรงงานใหม่ สถานีชาร์จไฟฟ้า และและอื่น ๆ

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานและการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น อาจหนุนความต้องการแรงงานก่อสร้างที่กำลังขาดตลาดอยู่ และแมคคินซีย์มองว่า การจ้างงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างจากปี 2565 จนถึง 2573 อาจเติบโต 12%

หากคาดการณ์การโยกย้ายงานในตลาดแรงงานถูกต้อง สหรัฐอาจมีผลผลิตเติบโตและเศรษฐกิจรุ่งเรืองมากขึ้น