จับตาสถานการณ์อาหารโลก 'ไอเอ็มเอฟ'ห่วงราคาข้าวผันผวน
จับตาสถานการณ์อาหารโลก 'ไอเอ็มเอฟ'ห่วงราคาข้าวผันผวน โดยราคาอาหารยังคงสูงทั่วโลกผลพวงจากสงครามของรัสเซียในยูเครนและสภาพอากาศแปรปรวน ล่าสุดการที่อินเดียห้ามส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาตียิ่งซ้ำเติมความมั่นคงด้านอาหาร
ธนาคารโลกรายงานเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ว่า เงินเฟ้อราคาอาหารยังคงสูงทั่วโลก ข้อมูลที่มีระหว่างเดือน ก.พ.-พ.ค.ปีนี้ ชี้ว่าเงินเฟ้อสูงในประเทศรายได้ต่ำและรายได้ปานกลางส่วนใหญ่ กล่าวคือ ในบรรดาประเทศที่เงินเฟ้อสูงกว่า 5% เป็นประเทศรายได้ต่ำ 63.2%, ประเทศรายได้ปานกลางค่อนไปทางต่ำ 79.5%, ประเทศรายได้ปานกลางค่อนไปทางสูง 67% หลายประเทศเงินเฟ้ออยู่ในระดับเลขสองหลัก
ไม่เพียงเท่านั้น 78.9% ของประเทศรายได้สูงกำลังเผชิญกับเงินเฟ้อราคาอาหารสูง ประเทศที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา อเมริกาเหนือ ละตินอเมริกา เอเชียใต้ ยุโรป และเอเชียกลาง
ในความเป็นจริงเงินเฟ้อราคาอาหารสูงเกินเงินเฟ้อทุกตัวใน 80.1% จาก 166 ประเทศที่เวิลด์แบงก์มีข้อมูล
เมื่อกลางเดือน ก.ค.ดัชนีราคาสินค้าเกษตร ส่งออก และธัญพืชปิดสูงขึ้น 6%, 4% และ 10% ตามลำดับ
ราคาข้าวโพดและข้าวสาลีเพิ่มขึ้น ปิดบวก 12% และ 14% ตามลำดับ หลังลดลงช่วงครึ่งแรกของเดือน ก.ค.ส่งผลดัชนีราคาธัญพืชเพิ่มสูง ขณะที่ราคาข้าวยังคงทรงตัว
หากเทียบเป็นรายปีราคาข้าวโพดและข้าวสาลีลดลง 15% และ 17% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับราคาเมื่อเดือน ม.ค.2564 ราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้น 8% ราคาข้าวสาลีเพิ่มขึ้น 11% และราคาข้าวสูงขึ้น 3%
วันที่ 17 ก.ค. รัสเซียประกาศยุติการเข้าร่วมข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนและรัสเซียผ่านทะเลดำ ที่องค์การสหประชาชาติและตุรกีเป็นตัวกลางเจรจา โดยให้เหตุผลว่าเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกับผลผลิตของรัสเซียไม่ได้รับการปฏิบัติตาม
ข้อตกลงทะเลดำซึ่งบังคับใช้เมื่อเดือน ก.ค. 2565 มีจุดมุ่งหมายเปิดทางการส่งออกธัญพืชจากยูเครนได้อย่างปลอดภัย ป้องกันการเกิดวิกฤติอาหารทั่วโลก ที่ผ่านมาได้มีการขยายระยะเวลาของข้อตกลงมาแล้วหลายครั้งก่อนจะหมดอายุในวันที่ 17 ก.ค.
วันที่ 19 ก.ค. รัฐบาลอินเดียแก้ไขนโยบายส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่สายพันธุ์บาสมาตีจากที่เคยส่งออกได้ไม่ต้องเสียภาษี 20% เป็นห้ามส่งออกให้มีผลทันที ทั้งนี้เพื่อให้มีข้าวพอบริโภคในประเทศ
แม้คำสั่งห้ามส่งออกจะช่วยลดราคาข้าวในอินเดียได้เพราะเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่เกือบ 40% ของข้าวในตลาดโลก แต่ก็อาจทำให้ราคาข้าวโลกสูงขึ้นอย่างมากและเพิ่มความผันผวนของราคา
การตัดสินใจของรัฐบาลอินเดียเกิดขึ้นในช่วงที่โลกกังวลหนักเรื่องราคาอาหารหลังจากรัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงทะเลดำ
ความสำคัญของอินเดียต่อการค้าข้าวโลก
อินเดียส่งออกข้าวกว่า 40% ของโลก ในปี 2565 ทั่วโลกส่งออกข้าว 55.4 ล้านตันเป็นของอินเดีย 22.2 ล้านตันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มากกว่าการส่งออกของสี่ประเทศรองลงมา ได้แก่ ไทย เวียดนาม ปากีสถาน และสหรัฐรวมกันด้วยซ้ำไป
อินเดียส่งออกข้าวไปมากกว่า 140 ประเทศ ผู้ซื้อข้าวที่ไม่ใช่สายพันธุ์บาสมาตีรายใหญ่ ได้แก่ เบนิน บังกลาเทศ แองโกลา คาเมรูน จิบูตี กินี ไอโวรีโคสต์ เคนยา และเนปาล ขณะที่อิหร่าน อิรัก และซาอุดีอาระเบียเป็นผู้ซื้อข้าวบาสมาตีพรีเมียมรายใหญ่
ปี 2565 อินเดียส่งออกข้าวที่ไม่ใช่สายพันธุ์บาสมาตี 17.86 ล้านตัน รวมถึงข้าวขาว 10.3 ล้านตัน เดือน ก.ย.ปีเดียวกันอินเดียห้ามส่งออกข้าวหักและเก็บภาษีส่งออกข้าวหลากสายพันธ์ุ 20%
รัฐบาลนิวเดลีไม่ห้ามการส่งออกข้าวบาสมาตีและข้าวนึ่ง ซึ่งปี 2565 อยู่ที่ 4.4 ล้านตัน และ 7.4 ล้านตันตามลำดับ
การที่มรสุมปีนี้มาช้าและเมื่อมาแล้วทำให้เกิดฝนตกหนักตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือน มิ.ย. แม้ช่วยบรรเทาภัยแล้งในอินเดียได้แต่เป็นสาเหตุให้พืชผลเสียหายมหาศาลด้วย
ไอเอ็มเอฟเตือนอินเดียซ้ำเติมสถานการณ์โลก
เว็บไซต์ดิอินดิเพนเดนท์รายงาน ไม่กี่วันก่อนหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า การที่อินเดียลดการส่งออกข้าว “ยิ่งทำให้ราคาอาหารโลกผันผวน” รัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ควรพิจารณานโยบายนี้ใหม่
ทั้งนี้ รัฐบาลโมดีต้องการรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าในประเทศ ก่อนการเลือกตั้งสำคัญจะมีขึ้นในปีนี้ ซึ่งอินเดียเผชิญราคามะเขือเทศพุ่งสูงไปเรียบร้อยแล้วจนเกิดความขาดแคลนต้องปล้นกัน แม้แต่กระทั่งผู้บริโภคเดินทางไปซื้อมะเขือเทศถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างเนปาล
นายปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ไอเอ็มเอฟ แสดงความกังวลว่า การเคลื่อนไหวของอินเดียอาจส่งผลกระทบแบบเดียวกันต่ออุปทานอาหารโลก หลังข้อตกลงส่งออกธัญพืชทะเลดำถูกระงับไปหนุนราคาในต่างประเทศพุ่งขึ้น
“ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน การออกข้อจำกัดเช่นนี้มีแต่จะซ้ำเติมให้ราคาอาหารในส่วนอื่นๆ ของโลกผันผวนยิ่งขึ้น และอาจนำไปสู่มาตรการตอบโต้ด้วย เราขอเรียกร้องให้ยกเลิกควบคุมการส่งออกแบบนี้ เพราะอาจส่งผลเสียไปทั้งโลก” นายกูลินชาสกล่าวและว่า ราคาธัญพืชโลกที่สูงสูดในรอบ 11 ปีไปแล้ว อาจเพิ่มขึ้น 10-15% ในปีนี้ ความเคลื่อนไหวของอินเดียอาจทำให้ตัวเลขสูงขึ้นอีก
ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาราคาข้าวทั่วโลกสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบห้าปี หลังรัฐบาลอินเดียประกาศเพิ่มราคาอุดหนุนข้าวขั้นต่ำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ปีก่อนอินเดียห้ามส่งออกข้าวสาลีสร้างความเดือดร้อนไปทั่วโลก
แม้การที่ราคาอาหารพุ่งสูงมีที่มาหลายสาเหตุ แต่หนึ่งเหตุผลที่กังวลกันทั่วโลกคืออากาศร้อนจัดและฝนไม่ตกตามฤดูกาล ส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตรทั่วโลกรวมถึงอินเดีย ที่ต้องต่อกรกับสภาพอากาศแปรปรวนนานัปการ
ความกลัวขาดแคลนยังทำให้เกิดการกักตุนด้วย ข้าวเป็นอาหารหลักของประชากรราวครึ่งโลก เฉพาะเอเชียทวีปเดียวบริโภคข้าวราว 90% ของโลก ประเทศนำเข้าข้าวอย่างอินโดนีเซีย จีน และฟิลิปปินส์รุกกักตุนข้าวอย่างมากในปีนี้