ญี่ปุ่นผ่อนปรนวีซ่าศิลปิน เพิ่มโอกาส K-POP โตในอุตฯดนตรีใหญ่อันดับ 2 ของโลก

ก่อนหน้านี้ ศิลปินต่างชาติต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อย 1 ประการ ตามข้อหนดขอยื่นวีซ่างานบันเทิง หรือวีซ่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์ อาทิ ต้องได้รับรายได้มากกว่า 500,000 เยน ระหว่างที่พำนักในญี่ปุ่น 15 วัน หรือต้องแสดงในงานที่จุที่นั่ง 100 ที่ หรือมากกว่านั้น ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความยากลำบากต่อศิลปินรุ่นใหม่ที่จะจัดแสดงในญี่ปุ่น

หากไม่มีคุณสมบัติดังกล่าว ญี่ปุ่นจะพิจารณาเงื่อนไขอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ศิลปินมีประสบการณ์แสดงงานในต่างประเทศ 2 ปีขึ้นไป และจัดแสดงบนเวที ในพื้นที่อย่างน้อย 13 ตารางเมตร

แต่เงื่อนไขเพิ่มเติมเหล่านี้ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเดือน ส.ค. นี้ ญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขหลักจากการพำนัก 15 วัน เป็น 30 วัน และเปลี่ยนแปลงคำในเงื่อนไขอื่น ๆ ร่วมด้วย

อย่างไรก็ดี หากศิลปินมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดจัดแสดงในงานที่มีที่นั่งหรือยืน 100 ที่ ถือว่ามีคุณสมบัติเพียงพอที่จะยื่นวีซ่างานบันเทิงได้แล้ว

ทั้งนี้ การผ่อนปรนมาตรการยื่นวีซ่าบันเทิงดังกล่าว ไม่ครอบคลุมเกี่ยวกับงานเต้นรำหรือดิสโก้ ที่ดำเนินการภายใต้พ.ร.บ.ควบคุมและปรับปรุงธุรกิจมหรสพ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ควบคุมธุรกิจที่อาจกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่น เผยว่า การผ่อนคลายมาตรการวีซ่าศิลปิน เกิดขึ้นจากการแสดงดนตรีสดที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยอุตสาหกรรมดนตรีญี่ปุ่นเรียกร้องให้ผ่อนปรนข้อกำหนดวีซ่าบันเทิง เพื่อให้ศิลปินต่างชาติเข้ามาแสดงงานในญี่ปุ่นได้มากขึ้น

 

“มาซาโตะ คิตากูชิ” บอกว่า การผ่อนปรนมาตรการวีซ่าบันเทิง ช่วยให้โปรโมทเตอร์ หรือบริษัทต้นสังกัดของศิลปินต่าง ๆ สามารถดึงดูดผู้ชมชาวต่างชาติให้เข้าร่วมงานในญี่ปุ่นมากขึ้น

ด้านสมาพันธ์ผู้ผลิตสิ่งบันทึกเสียงระหว่างประเทศ ระบุว่า โปรโมทเตอร์ในเกาหลีใต้ เอาใจใส่ตลาดแฟนคลับญี่ปุ่นมาก ไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนบ้านที่เป็นตลาดสำคัญต่อศิลปินเคป็อปเท่านั้น แต่ญี่ปุ่นเป็นตลาดดนตรีที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ

“กวัง ฮยอนแบ็ก” ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทสตาร์ตอัปเคป็อป MODHAUS เผยกับนิกเคอิเอเชียว่า

“ตลาดญี่ปุ่น เป็นก้าวแรกของการขยายตลาดในต่างประเทศของเคป็อป ซึ่ง BTS คือตัวอย่างของบอยแบนด์เกาหลีรุ่นใหม่ ที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น จนช่วยให้ได้รับการสนับสนุนในสหรัฐ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การได้รับความนิยมในญี่ปุ่นในขณะที่วงอยู่ในช่วงขาขึ้น ถือเป็นมาตรฐานความสำเร็จในเวทีต่างประเทศแล้ว”