ผอ.สำนักงานฉุกเฉินเมาวีลาออก รับผิดชอบไม่เปิดไซเรนเตือนไฟป่า

ทางการเขตเมาวีในรัฐฮาวายของสหรัฐฯ ประกาศข่าวในวันพฤหัสบดี (17 ส.ค.) ว่า ริชาร์ด บิสเซน นายกเทศมนตรีเขตเมาวี ได้รับหนังสือลาออกจาก เฮอร์มาน อันดายา ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว โดยอันดายาระบุเหตุผลด้านสุขภาพในหนังสือลาออก ที่มีผลบังคับใช้ทันที

การตัดสินใจลาออกมีขึ้นหลังจากอันดายา กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า เขาเสียใจสำหรับการตัดสินใจที่ไม่ได้เปิดไซเรนเตือนภัย เมื่อเกิดไฟป่าในเมืองลาไฮนา บนเกาะเมาวีเมื่อวันที่ 8 ส.ค. แต่ก็ชี้แจงด้วยว่า ไซเรนดังกล่าวมักใช้เตือนภัยสึนามิเป็นหลัก และประชาชนได้รับการฝึกให้อพยพขึ้นที่สูงเมื่อเสียงไซเรนดังขึ้น

นอกจากนี้ เขายังกล่าวแสดงความไม่แน่ใจว่า หากเปิดไซเรน ที่ส่งเสียงดังระดับ 121 เดซิเบลในคืนวันนั้น แล้วประชาชนจะได้ยินเสียงหรือไม่ โดยบอกว่า คนส่วนใหญ่อยู่ในบ้าน อาจจะไม่ได้ยิน บวกกับมีเสียงลมแรงดังมากในคืนนั้น

เมื่อถูกถามว่า เสียใจหรือไม่ที่ไม่ได้เปิดระบบไซเรนเตือนภัย เขาตอบ “ไม่” และให้เหตุผลว่า

เขากลัวว่าหากเปิดไซเรนแล้ว ชาวบ้านหนีลึกเข้าไปในพื้นที่ตอนใน และอาจกลายเป็นมุ่งหน้าสู่กองไฟ

แต่ แองกัส แมคเคลวีย์ วุฒิสมาชิกของสภารัฐฮาวาย ที่เป็นผู้แทนเมืองลาไฮนา และสูญเสียบ้านในไฟป่าเมาวีครั้งนี้  วิจารณ์คำพูดของอันดายาว่า เป็นการดูหมิ่นประชาชนว่า ไม่รู้ว่าเสียงไซเรนเป็นเสียงเตือนไฟป่า และบอกด้วยว่า ระบบไซเรนดังกล่าวไม่ได้เตือนสึนามิอย่างเดียว แต่เตือนภัยพิบัติต่าง ๆ

ด้านจอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวาย ได้ให้อัยการสอบสวนกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อรับมือภัยพิบัติไฟป่า ที่ลุกลามอย่างรวดเร็วสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันตกของเกาะ โดยเฉพาะเมืองลาไฮนา ที่ไฟป่าเผาทั้งเมืองเป็นเถ้าถ่าน

จนถึงขณะนี้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 111 ราย และอาจมีผู้สูญหายอีกกว่า 1,000 คน ไฟป่าครั้งนี้กลายเป็น ไฟป่าที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย และเป็นไฟป่าในสหรัฐฯ ครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 100 ปี

นับจนถึงเมื่อวันพุธ ไฟป่าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองลาไฮนาเผาผลาญพื้นที่ไปแล้ว 2,710 เอเคอร์ และควบคุมได้แล้ว 89%  นอกจากนี้ยังมีไฟป่าจุดอื่น ๆ บนเกาะเมาวี ซึ่งรวมถึงไฟป่าโอลินดา ที่เผาไหม้ 1,081 เอเคอร์ และควบคุมได้แล้ว 85%

ส่วนความคืบหน้าของการค้นหาผู้เคราะห์ร้ายครอบคลุมพื้นที่เกือบ 45% ของพื้นที่ประสบภัย และประธานาธิบดีโจ ไบเดน และจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จะเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยในเมาวีในวันจันทร์ (21 ส.ค.)