ทำไม ‘Korean Air’ ต้องให้ผู้โดยสาร ‘ชั่งน้ำหนักตัว’ ก่อนขึ้นเครื่อง ?
การชั่งน้ำหนักสัมภาระก่อนขึ้นเครื่องบิน คือเรื่องปกติตามมาตรฐานความปลอดภัย แต่ล่าสุดสายการบินใหญ่อย่าง “Korean Air” เตรียมขอให้ผู้โดยสารชั่งน้ำหนักตัวก่อนขึ้นบิน เพื่อทดสอบความปลอดภัย แต่ต้องเป็นไปตามความสมัครใจ
Key Points:
- การชั่งน้ำหนักสัมภาระก่อนขึ้นเครื่องบิน ถือเป็นมาตรการดูแลความปลอดภัยเบื้องต้นที่ผู้โดยสารจำเป็นต้องปฏิบัติตามในทุกสายการบิน แต่ล่าสุด “Korean Air” เริ่มขอความร่วมมือผู้โดยสาร “ชั่งน้ำหนักตัว” ด้วย
- จุดประสงค์ที่ขอให้ผู้โดยสารชั่งน้ำหนักตัวนั้น ก็เพื่อนำข้อมูลไปต่อยอดมาตรฐานความปลอดภัยให้รัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะการคำนวณน้ำหนักของเครื่องบิน แต่การชั่งน้ำหนักนั้นต้องเป็นไปตามความสมัครใจ
- ก่อนหน้านี้สายการบิน Air New Zealand ก็เคยทำการทดสอบดังกล่าวมาแล้ว โดยยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างของผู้โดยสารจะถูกเก็บเป็นความลับ
ตามปกติแล้วก่อนขึ้นเครื่องบินหลายคนคงทราบดีว่า ต้องมีการตรวจเอกสารการเดินทางและชั่งน้ำหนักสัมภาระก่อนขึ้นเครื่อง ตามมาตรฐานความปลอดภัยของการเดินทางโดยเครื่องบิน และไม่ใช่แค่สัมภาระของผู้โดยสารเท่านั้น แต่อุปกรณ์ทุกอย่างบนเครื่องบินก็จำเป็นต้องนำมาชั่งน้ำหนักด้วย เพื่อคำนวณและจัดสมดุลน้ำหนักบนเครื่องบิน เพื่อให้บินได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย และประหยัดเชื้อเพลิง
สำหรับ “สัมภาระ” ของผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องไปได้ 1 ชิ้น แต่ต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม หากเป็นสัมภาระที่จะโหลดใต้ท้องเครื่องต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม สำหรับเที่ยวบินในประเทศ และไม่เกิน 30 กิโลกรัม สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ
- ทำไมผู้โดยสารต้องชั่งน้ำหนักพร้อมสัมภาระก่อนขึ้นบิน
ล่าสุดไม่ใช่แค่การชั่งน้ำหนักสิ่งของต่างๆ เท่านั้น แต่ “Korean Air” หรือ โคเรียนแอร์ สายการบินที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ได้ออกมาตรการ “ชั่งน้ำหนักตัวผู้โดยสาร” ก่อนขึ้นเครื่อง เพื่อนำไปทดสอบความปลอดภัยขณะเครื่องขึ้นบิน และนำไปปรับปรุงต่อไปในอนาคต แต่การขอความร่วมมือชั่งน้ำหนักผู้โดยสารก็ต้องเป็นไปตามความสมัครใจและข้อมูลดังกล่าวจะถูกเก็บเป็นความลับ
การทดสอบดังกล่าวเป็นไปตามกฎระเบียบของ “กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และการขนส่ง” ของเกาหลีใต้ โดยจะทดสอบทั้งเที่ยวบินในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ จากรายงานของ Korea Joongang Daily ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสายการบิน Korea Air อธิบายว่า ผู้โดยสารจะถูกขอให้ขึ้นเครื่องชั่งน้ำหนักพร้อมกับสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่อง ตามประตูขึ้นเครื่องในแต่ละจุดที่กำหนดไว้ โดยข้อมูลทุกอย่างของผู้โดยสารจะได้รับการเก็บเป็นความลับ เพื่อนำไปใช้ในการทดสอบ
สายการบินยืนยันว่า ไม่ได้ทำเพื่อเก็บค่าโดยสารเพิ่มจากผู้โดยสารที่มีน้ำหนักเกิน และถ้าผู้โดยสารคนไหนไม่สะดวกเข้าร่วมการทดสอบก็สามารถปฏิเสธได้โดยการแจ้งให้ลูกเรือทราบ
สำหรับการทดสอบจะเริ่มจากเที่ยวบินภายในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. - 6 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ที่สนามบินนานาชาติกิมโป ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศจะเริ่มทดสอบ วันที่ 8-19 ก.ย. ที่สนามบินนานาชาติอินชอน
- น้ำหนักบนเครื่องบิน ส่งผลต่อความปลอดภัยและกำไรของสายการบิน
จุดประสงค์หลักที่สำคัญของการทดสอบก็คือ เพื่อปรับปรุง “มาตรฐานการจัดการน้ำหนักและความสมดุลของเครื่องบิน” ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับความปลอดภัยในการบินเป็นอย่างมาก
“Korean Air” อธิบายเพิ่มเติมว่า น้ำหนักและความสมดุลโดยเฉลี่ยคือสิ่งที่สำคัญมากบนเครื่องบิน เพราะยิ่งเครื่องบินมีน้ำหนักเบา ก็จะยิ่งช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานน้อยลง ใช้เชื้อเพลิงน้อยลง และบินได้ไกลขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของการออกแบบเครื่องบินอีกด้วย โดยเหตุผลทั้งหมดนั้นล้วนส่งผลต่อกำไรของสายการบิน
แม้ว่ามาตรการดังกล่าวอาจทำให้ผู้โดยสารบางส่วนไม่สบายใจหรือไม่เห็นด้วย แต่การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ได้ดำเนินการโดยสายการบิน เพราะเป็นข้อกำหนดที่มาจากหน่วยงานกำกับดูแลสายการบินของรัฐบาล
การชั่งน้ำหนักตัวของผู้โดยสารนั้นเคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วกับสายการบิน “Air New Zealand” หรือ แอร์นิวซีแลนด์ ที่เริ่มใช้มาตรการดังกล่าวในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาทดสอบ 5 สัปดาห์ เพื่อนำผลลัพธ์มาช่วยในการตัดสินใจด้านความต้องการเชื้อเพลิงและการกระจายน้ำหนักบนเครื่องบิน ซึ่งเป็นมาตรการจากสำนักงานการบินพลเรือนของประเทศ
ข้อมูลจาก CNN ระบุว่า ตัวแทนของ Air New Zealand เคยกล่าวว่า “เรารู้ว่าการชั่งน้ำหนักตัวเป็นเรื่องที่ผู้โดยสารกังวล แต่เราก็สร้างความมั่นใจให้กับผู้โดยสารโดยการปกปิดข้อมูลทุกอย่างให้เป็นความลับ แม้แต่ลูกเรือเองก็จะไม่รู้ข้อมูลนี้ (เพราะข้อมูลจะไปรวมกัน และไม่มีจอแสดงผล)”
โดยสรุปแล้วการ “ชั่งน้ำหนัก” ของผู้โดยสารรวมกับสัมภาระก่อนขึ้นเครื่องบินนั้น ก็เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยของตัวผู้โดยสารเอง ไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่ายของสายการบิน แต่ก็เป็นเพียงการขอความร่วมมือเท่านั้น และในอีกหลายสายการบินก็ยังไม่ได้กำหนดให้มีมาตรการดังกล่าว
อ้างอิงข้อมูล : Korea Joongang Daily, CNN, Independent และ Dailymail