อ่านเกม ‘คิม จอง อึน’ เยือนรัสเซีย ไม่ได้ไปมือเปล่า
“ผู้นำเกาหลีเหนือ” เยือนมอสโก สานประโยชน์ขายอาวุธล็อตใหญ่ ท่ามกลางคำถาม กระสุนด้านกว่าครึ่ง จะใช้อะไรสู้ขีปนาวุธสหรัฐ
นักวิเคราะห์ทางทหารกล่าวว่า หากเกาหลีเหนือจัดหาอาวุธปืนใหญ่และอาวุธอื่นๆให้กับมอสโก ใช้ทำสงครามในยูเครน ก็จะช่วยกองกำลังรัสเซียได้มาก และสามารถเพิ่มจำนวนกระสุนในคลังที่กำลังหร่อยหรอลง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งให้เครมลินได้จริงหรือไม่ เมื่อมีคำถามเกี่ยวกับคุณภาพกระสุนของเกาหลีเหนือ หลายลูกไม่ทำงาน แถมยิงไปไม่ถึงเป้าหมายจริง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เชื่อกันว่า เกาหลีเหนือมีคลังอาวุธปืนใหญ่และขีปนาวุธจำนวนมากในครอบครอง ซึ่งชนิดของกระสุนสามารถนำไปใช้กับอาวุธที่ผลิตขึ้นตั้งแต่ในยุคโซเวียตได้
“คิม จอง อึน” ผู้นำเกาหลีเหนือเดินทางถึงรัสเซียในวันนี้ เพื่อพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐอ้างว่า ทั้งสองจะลงนามทำข้อตกลงด้านอาวุธ
โจเซฟ เดมป์ซีย์ นักวิจัยด้านกลาโหม สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาเชิงกลยุทธ์กล่าวว่า เมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งไม่ชัดเจนว่า อาวุธเหล่านี้ยังใช้งานได้ดีเพียงใด เช่นเดียวกับการผลิตอาวุธก็ยังคงดำเนินอยู่ ไม่บ่งบอกจำนวนเท่าไร แต่คลังอาวุธของเกาหลีเหนือจะช่วยเสริมศักยภาพให้กับกองทัพรัสเซีย ที่กำลังขาดแคลนกระสุนอย่างหนักสำหรับนำไปใช้โจมตียูเครน
“การที่รัสเซียเข้าถึงคลังกระสุนจำนวนมหาศาลได้ จะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไป แต่สถานการณ์ปัจจุบัน ยังไม่มีสิ่งไหนมาเปลี่ยนสงครามให้เป็นสันติภาพได้” โจเซฟกล่าว
ทั้งยูเครนและรัสเซียต่างใช้กระสุนจำนวนมหาศาล จึงต้องมองหาพันธมิตรทั่วโลก เพื่อเติมกระสุนให้คงคลังไว้
นักวิจัยกลาโหมประเมินว่า เมื่อปีที่แล้ว รัสเซียยิงกระสุนประมาณ 10 - 11 ล้านนัดในสงครามยูเครน
ขณะที่ยูเครนใช้กระสุนปืนใหญ่และขีปนาวุธที่มีประสิทธิภาพขั้นสูง ซึ่งสหรัฐเป็นผู้จัดหาให้ เช่น เอ็กซ์คาลิเบอร์ที่ใช้ GPS ช่วยนำทาง สามารถโจมตีเป้าหมายที่มีขนาดเล็กเพียง 3 เมตร จากระยะทางไกลสูงสุด 40 ก.ม.
ทำเนียบขาวบอกว่า รัสเซียต้องการซื้อกระสุนปืนใหญ่และจรวดจำนวนนับล้านจากเกาหลีเหนือ
มีคำถามว่า รัสเซียต้องการปริมาณมากกว่าคุณภาพอย่างนั้นหรือ ซึ่งกระสุนปืนใหญ่ของเกาหลีเหนืออาจไม่ช่วยรัสเซียเท่าไร เพราะในยุทธการทางทหารต้องแข่งกันด้วยเทคโนโลยี และเดินเกมด้วยกลยุทธ์ มากกว่าโหมยิงกระสุนต่อสู้แบบไร้ทิศทาง
กองทัพสหรัฐ เปิดเผยผลสำรวจระบุว่า กว่าครึ่งหนึ่งของกระสุนของเกาหลีเหนือตกลงในรอบๆ คาบสมุทรเกาหลี ขณะที่อีกประมาณ 20% ของกระสุนที่ยิงออกไปไม่สามารถระเบิดได้
ข้อมูลนี้บ่งบอกแนวโน้มความล้มเหลวที่สูง เพราะประสิทธิภาพต่ำ ไม่มีควบคุมคุณภาพการผลิต และมาตรฐานการจัดเก็บ
เจ้าหน้าเพนตากอนบอกว่า กระสุนของเกาหลีเหนือจำนวนมาก ไร้ประสิทธิภาพ แถมขาดความแม่นยำ เหมือนกับการยิงกระสุนหรือขีปนาวุธออกไปแบบโง่ๆ ไม่คาดหวังจะทำลายเป้าหมาย ซึ่งเชื่อว่าเป็นสิ่งที่รัสเซียไม่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม กระสุนเกาหลีเหนือที่มีคุณภาพต่ำ จะทำให้ทหารรัสเซียไม่ปลอดภัยก็ได้