เอดีบีหั่นคาดการณ์จีดีพีชาติกำลังพัฒนาในเอเชีย เหลือโต 4.7% ปี 2566
ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียลงเล็กน้อยเหลือ 4.7% ในปี 2566 เพราะอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น และปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในจีน
การปรับลดตัวเลขคาดการณ์ของเอดีบีครั้งนี้ ต่ำกว่าการคาดการณ์ในเดือนเม.ย.ที่คาดว่าจีดีพีจะการขยายตัว 4.8% พร้อมทั้งคาดว่าการเติบโตในจีนมีแนวโน้มว่าจะอยู่ที่ 4.9% ในปีนี้ ช้ากว่าการเติบโต 5% จากก่อนหน้านี้
เอดีบีมองว่าอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอลงส่งผลให้การส่งออกตกต่ำ กิจกรรมทางเศรษฐกิจได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ เอดีบียังกล่าวถึงความเสี่ยงหลัก 3 ประการที่มีผลต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจว่า ได้แก่ ผลกระทบของความอ่อนแอในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน, การหยุดชะงักของอุปทานเป็นระยะๆ จากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย และการควบคุมการส่งออก ท่ามกลางความเสี่ยงของภัยแล้งและน้ำท่วมที่เกิดจากเอลนิโญ
“อัลเบิร์ต พาร์ค” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบี กล่าวว่า “การพัฒนาในเอเชียยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็ลดลง ธนาคารกลางบางแห่งในภูมิภาคเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตได้อย่างดี”
นอกจากนี้ เอดีบียังปรับลดการคาดการณ์การเติบโตของอินเดียลงเหลือ 6.3% จาก 6.4% เนื่องจากการลงทุนภาครัฐในอินเดียยังคงแข็งแกร่งและจะยังคงขับเคลื่อนการเติบโตต่อไป ส่วนอุปสงค์ในประเทศก็มีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกันในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค
ทั้งนี้ เอดีบี มองว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียและแปซิฟิกจะชะลอตัวลงเหลือ 3.6% ในปี 2566 ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 4.2% พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อปี 2567 เพิ่มขึ้น 3.5%