'สิงคโปร์' ครองตำแหน่ง 'นายทุนอสังหาฯ อันดับ 1' ของญี่ปุ่น
สิงคโปร์ กลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด ในภาคอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นในปีนี้ โดยมีเงินทุนไหลเข้าจากสิงคโปร์มูลค่าเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก อ้างอิงข้อมูลจากไนท์แฟรงค์ แอลแอลพี บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยว่า สิงคโปร์ กลายเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด ในภาคอสังหาริมทรัพย์ญี่ปุ่นในปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากอุตสาหกรรมโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมบริการ
ปัจจุบัน เงินทุนไหลเข้าจากสิงคโปร์มีมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.08 แสนล้านบาท) ในปี 2566 รองลงมาเป็นเงินทุนจากสหรัฐ แคนาดา และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
คริสทีน ลี หัวหน้าฝ่ายวิจัยเอเชียแปซิฟิกของไนท์แฟรงค์ ระบุในรายงานว่า เนื่องด้วยกองทุนความมั่งคั่งของรัฐบาลสิงคโปร์ (จีไอซี) ซื้อคลังสินค้า 6 แห่งในญี่ปุ่น จากบริษัทแบล็กสโตน อิงก์ มูลค่า 800 ล้านดอลลาร์ จึงทำให้สิงคโปร์ครองตำแหน่งนายทุนอสังหาฯอันดับหนึ่ง
เจฟฟรีย์ เจนสุภากิจ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของจีไอซี กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า ญี่ปุ่นเป็นตลาดราคาถูกมากที่สามารถสร้างมูลค่าและเติบโตได้นาน และด้วยต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำ จึงสามารถดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้ และทุ่มทุนให้กับธุรกิจโรงแรมมากขึ้น เพราะการท่องเที่ยวหลังการแพร่ระบาดโควิด-19 กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ตามข้อมูลของเอ็มเอสซีไอ เรียล เอสเตตส์ ระบุว่า นักลงทุนต่างชาติ ทั้งโกลด์แมนแซคส์ กรุ๊ป อิงก์, เคเคอาร์แอนด์โค, แบล็กสโตน อิงก์ ต่างลงทุนไปกับสัญญาธุรกิจโรงแรมในญี่ปุ่นมาตลอด จนถึงปี 2566 รวมมูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 2,000 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นเงินทุนมูลค่ามากที่สุด เมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่น ๆ ในอสังหาฯเชิงพาณิชย์ของเอเชีย
อ้างอิง: Bloomberg