จีนแต่งตั้งว่าที่ "รมว.คลัง" คนใหม่ "หลันฝออัน" มือเศรษฐกิจจากกวางตุ้ง
จีนแต่งตั้งว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ จับตาเข้ามาแก้หนี้รัฐบาลท้องถิ่น-ใช้นโยบายการคลังช่วยดันเศรษฐกิจโต
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า พรรคคอมมิวนิสต์มีคำสั่งแต่งตั้งให้นาย "หลันฝออัน" ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์ประจำกระทรวงการคลัง หรือเท่ากับเป็นสัญญาณของการเตรียมแต่งตั้งเป็นว่าที่รัฐมนตรีคลังคนใหม่ แทนที่นายหลิวคุน ซึ่งกำลังจะเกษียณอายุในเร็วๆ นี้
คำสั่งแต่งตั้งดังกล่าวมีขึ้นในจังหวะที่จีนกำลังเผชิญสถานการณ์ทางการคลังที่ตึงตัว โดยตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนต้องพึ่งพาการกู้ยืมมากขึ้น เพราะรัฐบาลออกมาตรการลดภาษีอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่ลง นอกจากนี้รัฐบาลยังต้องเพิ่มงบให้สวัสดิการสังคมมากขึ้นเพื่อรองรับกับประชากรสูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น และรับมือกับเศรษฐกิจที่ผันผวนมากขึ้นด้วย
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนเคยส่งสัญญาณจะใช้นโยบายการคลังเชิงรุกมากขึ้นในปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่ที่สุดก็ไม่สามารถทำได้ง่ายนัก เพราะติดปัญหาที่รัฐบาลท้องถิ่นจัดเก็บรายได้ลดลงอันเนื่องมาจากมาตรการลดภาษีและวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ จนปักกิ่งต้องเข้าช่วยรัฐบาลท้องถิ่นด้วยการออกโครงการสวอปหนี้วงเงิน 1 ล้านล้านหยวน (เกือบ 5 ล้านล้านบาท) ให้ท้องถิ่นนำหนี้ดอกเบี้ยสูงที่ซุกซ่อนไว้มาแลกกับพันธบัตรดอกเบี้ยต่ำแทน
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุด้วยว่าตำแหน่งรัฐมนตรีคลังในจีนนั้นไม่ได้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจเหมือนกับในประเทศอื่นๆ และหลันก็ไม่ได้เป็นคณะกรรมการประจำกรมการเมือง (โปลิตบูโร) ซึ่งเป็นหน่วยงานทรงอิทธิพลทางการเมืองที่สุดในจีนด้วย
เป็นที่คาดว่า หลันน่าจะได้รับบทบาทให้ดูแลนโยบายการคลังในภาพกว้าง เช่น การตัดสินใจว่าจะเพิ่มเพดานการขาดดุลงบประมาณจากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ระดับ 3% ของจีดีพี หรือไม่ หรือการกำหนดโควต้าการออกพันธบัตรของรัฐบาลท้องถิ่นในจีน
หลันในวัย 61 ปี มีพื้นเพมาจากมณฑลกวางตุ้ง และทำงานเป็นข้าราชการมานานโดยเริ่มจากตำแหน่งเสมียนในกระทรวงการคลัง ก่อนจะขยับขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้งในปี 2016 และขึ้นไปถึงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประจำสำนักงานตรวจสอบบัญชีของมณฑลกวางตุ้ง
ทั้งนี้ กวางตุ้งยังเป็นมณฑลแรกในจีนที่ประกาศว่าสามารถจัดการปัญหาหนี้เน่าที่ถูกซุกใต้พรมได้สำเร็จเป็นพื้นที่แรกในจีน เมื่อเดือน ม.ค.ปีนี้