ไทม์ไลน์ ‘กลุ่มฮามาส’ โจมตี ‘อิสราเอล’ โต้กลับแรง ใกล้สิ้นสุดสงครามเฟสแรก
เสียงไซเรนแจ้งเตือนการโจมตีทางอากาศดังขึ้นครั้งแรก เมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในวานนี้ ท่ามกลางกลุ่มฮามาสเปิดฉากยิงต่อเนื่อง ทั้งทางบก ทะเล อากาศ ทำให้อิสราเอลต้องประกาศภาวะสงคราม และโจมตีกลับฉนวนกาซา
เว็บไซต์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า กลุ่มติดอาวุธก่อเหตุโจมตีทั่วอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ (7 ต.ค.) นำไปสู่เหตุการณ์สู้รบที่รุนแรงและร้ายแรงที่สุดอีกหนึ่งวัน ในรอบหลายทศวรรษ
ฮามาส กลุ่มติดอาวุธที่คุมพื้นที่ฉนวนกาซา ได้ยิงจรวดโจมตีหลายเมืองใหญ่ทั่วอิสราเอล และได้ส่งกองทัพนักรบข้ามพรมแดนไปยังตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งตอนนี้พวกเขาเข้ายึดฐานทัพ และจับตัวประกันไว้ได้
ต่อไปนี้เป็นลำดับเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในวันเสาร์ จนถึงวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่นของอิสราเอลและฉนวนกาซา
6.35 น. เสียงไซเรนเตือนครั้งแรกว่า มีการยิงจรวดเข้ามาทางตอนกลางและตอนใต้ของอิสราเอล นี่เป็นจุดเริ่มต้นหลังกลุ่มฮามาสยิงจรวดหลายพันลูกใส่อิสราเอล โจมตีแม้กระทั่งเมืองใหญ่ๆ เช่น เทลอาวีฟ และเยรูซาเลม
มูฮัมหมัด เดอิฟ ผู้นำทหารของกลุ่มฮามาสกล่าวว่า กลุ่มฮามาสตัดสินใจเปิดฉากสิ่งที่เรียกว่า "ปฏิบัติการ" เพื่อให้ศัตรูเข้าใจว่าช่วงเวลาที่ก่อเหตุโดยปราศจากการรับผิดชอบได้สิ้นสุดลงแล้ว
7.40 น. กองกำลังป้องกันอิสราเอลยืนยันว่า นักรบฮามาสได้ข้ามจากฉนวนกาซาไปทางตอนใต้ของอิสราเอลแล้ว และทางการขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงสเดโรต์อยู่แต่ในบ้านของตนเอง
8.15 น. เสียงไซเรนชุดแรกดังขึ้นในกรุงเยรูซาเล็ม ปกติแล้วไม่ค่อยพบมีการยิงจรวดเข้ามา เพราะอิสราเอลมีระบบโดมเหล็กป้องกัน ขณะนั้นยังไม่ชัดเจนว่ามีจรวดใดๆ โจมตีใจกลางเมืองได้หรือไม่ แต่มีพยานรายหนึ่งบอกเล่าว่า ได้เห็นจรวดตกลงบนเนินเขาที่ชายป่า ทางตะวันตกของเมืองนี้
8.23 น. เกือบสองชั่วโมงหลังเสียงไซเรนชุดแรกเตือนขึ้น ซึ่งพบว่า กลุ่มฮามาสได้จับตัวประกันทางตอนใต้ของอิสราเอล และยิงจรวดเข้ามาอีกระลอก เหตุนี้ทำให้ทางการอิสราเอลได้ประกาศแจ้งเตือนเข้าสู่ภาวะสงคราม พร้อมกับรวบรวมกองหนุนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
10.34 น. ทางการอิสราเอลประกาศได้เริ่มทำสงครามกับกลุ่มฮามาสแล้ว
10.46 น. เครื่องบินลบของอิสราเอลโจมตีเป้าหมายแรกในฉนวนกาซา
11.35 น. นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลแถลงครั้งแรกต่อประชาชนเกี่ยวกับวิกฤติครั้งนี้ ที่เรียกว่า "วันสีดำ" พร้อมลั่นจะตอบโต้กลับให้ถึงที่สุด
12.21 น. ทหารอิสราเอลส่งกองกำลังไปทางตอนใต้ของอิสราเอลเพื่อยึดเมืองที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสครองอยู่ โดยทางการอิสราเอลประเมินว่า กลุ่มฮามาสยิงจรวดไปแล้วอย่างน้อย 2,200 ลูก นับตั้งแต่เสียงไซเรนครั้งแรกดังขึ้นเมื่อเช้าวันเสาร์
13.46 น. อิสราเอลโจมตีอาคาร 21 หลังซึ่งเป็นฐานที่ตั้งปฏิบัติการทางทหารของกลุ่มฮามาส
14.29 น. สหรัฐแถลงครั้งแรกมีขึ้นโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติได้ประณามเหตุโจมตีดังกล่าว และแสดงการยืนยันสนับสนุนอิสราเอล นอกจากนี้ ตลอดทั้งวัน นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำชาติต่างๆ รวมถึงผู้นำทั่วภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อขอการสนับสนุนและแสดงจุดยืนร่วมกับสหรัฐ
14.35 น. นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรี และออกแถลงการณ์ระบุอิสราเอลจะเสริมกำลังอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการอ้างอิงที่ชัดเจนถึงความเป็นไปได้ของภัยคุกคามจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ที่ปฏิบัติการทางตอนใต้ของเลบานอน บริเวณชายแดนติดกับอิสราเอล
18.08 น. ประธานาธิบดีโจ ไบเดนโทรศัพท์พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู เพื่อแสดงความเสียใจและการสนับสนุนที่เหมาะสม
22.16 น. นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กล่าวปราศรัยทั่วประเทศ และให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนพื้นที่ที่กลุ่มฮามาสบัญชาการอยู่ให้เป็น "ซากปรักหักพัง"
ตลอดทั้งคืนวันเสาร์ ข้ามไปยังวันอาทิตย์ (8ต.ค.) ไซเรนยังคงเตือนเรื่องจรวดทั่วอิสราเอล พร้อมรายงานความเสียหายบางส่วน โดยเครื่องบินรบของอิสราเอลมุ่งโจมตีเป้าหมายทั่วฉนวนกาซา
2.19 น. สงครามระยะแรกใกล้สิ้นสุดลงแล้ว โดยอิสราเอลอ้างว่า ได้ทำลายสถานที่ทั้งหมดที่เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาสใช้โจมตี ซึ่งนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูโพสต์บน X ระบุว่า "การรุกกลับ" ได้เริ่มต้นแล้ว
11.40 น. ตามที่ชาวอิสราเอล และอาจรวมถึงแรงงานไทยอย่างน้อย 11 คน ถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสจับกุมเป็นตัวประกัน และพาตัวไปยังฉนวนกาซา ล่าสุดทางการอิสราเอลรายงานว่า มีการปล่อยตัวประกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่ามีคนไทยหรือไม่
ที่มา : The New York Times , BBC