IMF จับตาสถานการณ์อิสราเอล-ปาเลสไตน์ใกล้ชิด เตรียมประเมินผลกระทบศก.
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศจับตาสถานการณ์ในอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในฉนวนกาซา และเตรียมประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการสู้รบของทั้งสองฝ่าย
โฆษกของ IMF ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ พร้อมประกาศจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และในขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะสามารถประเมินได้ว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบมากเพียงใด โดยอาจจะมีการประเมินผลกระทบในวันข้างหน้า
กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล แบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล และจับผู้คนเป็นตัวประกัน ขณะที่อิสราเอลตอบโต้ด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ส่งผลให้บ้านเรือน มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสได้รับความเสียหายอย่างหนัก
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนในตลาดการเงินวิตกกังวล โดยในช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ดิ่งลงกว่า 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าดังกล่าวอาจทำให้ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสาตร์มีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นซึ่งเผชิญกับแรงกดดันอยู่แล้วจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยสูง
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสพุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการสู้รบอันดุเดือดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโล