สงครามอิสราเอล-ฮามาสจุดชนวนม็อบ'หนุน-ต้าน'หลายประเทศ รวมฝรั่งเศส

ตำรวจฝรั่งเศส ซึ่งตรึงกำลังอยู่บริเวณโดยรอบเริ่มใช้แก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุม เนื่องจากผู้ชุมนุมฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศส ที่ก่อนหน้านี้ออกมาสั่งห้ามไม่ให้มีการชุมนุมเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ เพราะมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย และทำให้เกิดความไม่สงบสุข

หลังเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลและฮามาส ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการกระทำที่นำไปสู่ความแตกแยก พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลได้ยกระดับการดูแลความปลอดภัยต่อสถานที่ของชาวยิวรวมถึงโรงเรียนและโบสถ์

ในการชุมนุมประท้วงครั้งนี้  กลุ่มผู้ประท้วงตะโกนประณาม อิสราเอลว่า เป็นฆาตกร และประณามประธานาธิบฝรั่งเศสว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีมาครงออกมาประณามการโจมตีของกลุ่มฮามาสและแสดงจุดยืนเคียงข้างอิสราเอล

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเป็นชุมชนชาวมุสลิมและชาวยิวที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และในอดีต ความขัดแย้งในตะวันออกกลางมักจุดชนวนความตึงเครียดภายในประเทศ ซึ่งตั้งแต่มีการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจฝรั่งเศสจับกุมผู้กระทำการต่อต้านชาวยิวไปแล้วมากว่า 20 คน รวมถึงนักเรียนที่คุกคามเพื่อนชาวยิวในโรงเรียน

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมประท้วงต่อต้านอิสราเอล และสนับสนุนปาเลสไตน์ไม่ได้เกิดขึ้นในฝรั่งเศสเท่านั้น ในกรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ไว้ได้หลายคน หลังจากฝ่าฝืนคำสั่งของทางการที่สั่งห้ามแผนการเดินขบวน ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วม 250 คน รวมถึงการประท้วงอื่นๆ 

ส่วนที่นครนิวยอร์กของสหรัฐ นักศึกษาหลายสิบคนออกมารวมตัวที่หน้าวิทยาลัยบรูคลิน พร้อมทั้งส่งเสียงและชูป้ายข้อความแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์