สหรัฐแนะพลเมืองออกชายแดนราฟาห์ใกล้อียิปต์ หวังอพยพให้เร็วที่สุด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันเสาร์ (14 ต.ค.) ว่า รัฐบาลสหรัฐแนะนำให้พลเมืองอเมริกันย้ายลงใต้ไปยังจุดผ่านแดนราฟาห์ที่ติดกับอียิปต์ เพื่อเตรียมพร้อมอพยพหลังเปิดทางผ่านแดนอีกครั้ง หลังการโจมตีของฮามาสในอิสราเอล ทำให้กองทัพอิสราเอลตอบโต้กลับในบริเวณชายฝั่งที่มีประชากรหนาแน่น

เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เผยว่า รัฐบาลวอชิงตันทำงานร่วมกับอียิปต์ อิสราเอล และกาตาร์ เพื่อพยายามขอเปิดทางข้ามราฟาห์ในบ่ายวันเสาร์ซึ่งมีเวลาจำกัด เพื่อช่วยชาวอเมริกันเชื้อสายปาเลสไตน์ออกไปจากพื้นที่เสี่ยง

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่ากลุ่มฮามาสที่ควบคุมฉนวนกาซา จะอนุญาตให้เข้าถึงจุดผ่านแดนได้หรือไม่ หรือพลเมืองสหรัฐคนใดจะสามารถออกไปได้หรือไม่ และยังไม่ทราบทันทีว่าสหรัฐจะพยายามเปิดทางผ่านราฟาห์อีกครั้งในวันนี้หรือไม่

“ทางผ่านแดนอาจสังเกตเห็นได้น้อยมากถ้าทางเปิด และอาจเปิดได้ในเวลาที่จำกัดเท่านั้น” เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงฯ กล่าว

รัฐบาลสหรัฐ ประเมินแล้วว่า จำนวนชาวปาเลสไตน์-อเมริกันที่มีสองสัญชาติในฉนวนกาซาอาจอยู่ที่ 500 ถึง 600 คน ในบรรดาประชากร 2.3 ล้านคนของแถบนี้ และรัฐบาลวอชิงตันหวังว่าจะช่วยให้ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากพ้นจากอันตรายได้

ด้านทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนชาวปาเลสไตน์ร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์

ในการโทรศัพท์หาอับบาสครั้งแรกนับตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไบเดนเสนอการสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่อับบาส เพื่อให้ให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และหารือเกี่ยวกับความพยายามของสหรัฐ เพื่อให้แน่ใจว่าซัพพลายที่จัดหาให้จะส่งถึงพลเรือนในฉนวนกาซา