สหรัฐวีโตมติยูเอ็นประณาม'อิสราเอล-ฮามาส'ใช้ความรุนแรง
สหรัฐใช้สิทธิ์วีโตร่างมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ซึ่งจะประณามเหตุความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและฮามาส พร้อมเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่ายหยุดยิงเพื่อเปิดทางให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
การใช้สิทธิ์วีโตของสหรัฐ เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐพยายามเป็นตัวกลางเจรจากับอิสราเอลเพื่อเปิดทางส่งความช่วยเหลือเข้าสู่กาซา โดยเมื่อวันพุธ(18ต.ค.) ชาติสมาชิกยูเอ็นเอสซี 12 จาก 15 ชาติโหวตรับรองมติประณามอิสราเอลและฮามาสที่ใช้ความรุนแรงต่อกัน ขณะที่รัสเซีย และสหราชอาณาจักร งดออกเสียง และในท้ายที่สุดสหรัฐซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรยูเอ็นเอสซีให้สิทธิ์วีโตเพื่อขวางมติดังกล่าว
นางลินดา โธมัส-กรีนฟีลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ กล่าวในที่ประชุมยูเอ็นเอสซีหลังการโหวตว่า “สหรัฐอยู่ในพื้นที่กำลังทำงานด้านการทูต และเชื่อว่าจะสามารถปล่อยให้กระบวนการทางการทูตทำงานได้จนเป็นผลสำเร็จ”
ร่างมติดังกล่าวยังเรียกร้องให้อิสราเอล ถอนคำสั่งให้พลเมืองและเจ้าหน้าที่ยูเอ็นในฉนวนกาซาอพยลงใต้ โดยไม่ระบุชื่ออิสราเอล และประณามการโจมตีก่อการร้ายของกลุ่มฮามาส
นางโธมัส-กรีนฟีลด์ ระบุว่า สหรัฐผิดหวังที่ร่างมติของยูเอ็นเอสซีไม่ระบุถึงสิทธิ์ของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง พร้อมทั้งกล่าวโทษกลุ่มฮามาสว่า เป็นต้นเหตุทำให้เกิดวิกฤติมนุษยธรรมในกาซา
อิสราเอลยังคงปิดล้อมฉนวนกาซาและโจมตีเข้าใส่อย่างหนัก โดยประกาศว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก หลังกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดเข้าใส่อิสราเอลเมื่อ 7 ต.ค. จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 1,400 ศพ และส่งนักรบติดอาวุธเข้ามาจับตัวประกันไปนับร้อยคน ทั้งชาวอิสราเอลและชาวต่างชาติ