อิสราเอลเรียกร้อง'กาตาร์'กดดันฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมด
นายเอลี โคเฮน รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล เรียกร้องให้กาตาร์ใช้อิทธิพลกดดันกลุ่มฮามาสให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยทันที และอย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะกองทัพอิสราเอลส่งสัญญาณพร้อมเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีฉนวนกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส
"กาตาร์ ซึ่งให้เงินทุนสนับสนุนและให้ที่พักพิงต่อผู้นำฮามาส ควรใช้อิทธิพลกดดันให้ฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยทันที และอย่างไม่มีเงื่อนไข ส่วนพวกท่าน ซึ่งเป็นสมาชิกของประชาคมระหว่างประเทศ ควรเรียกร้องให้กาตาร์ดำเนินการดังกล่าว และการประชุมนี้ควรสรุปด้วยข้อความที่ชัดเจนว่า จงพาพวกเขากลับบ้าน" นายโคเฮนกล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC)
ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลส่งสัญญาณพร้อมเปิดฉากใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีฉนวนกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส โดยพลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า "ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่า เราพร้อมบุกแล้ว"
นอกจากนี้ พลโทฮาเลวีกล่าวว่า IDF กำลังตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาที่แน่นอนในการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดิน โดยมีการหารือร่วมกับผู้นำทางการเมือง
"รัฐอิสราเอลกำลังอยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายฮามาสเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน และพวกเขาจะต้องเสียใจ เราได้ฝึกมาเพื่อการทำสงครามครั้งนี้ เราให้อาวุธที่ถือว่าดีที่สุดในโลกแก่ทหาร แต่เหนือสิ่งอื่นใด เรามีนักรบที่ดีที่สุดสำหรับภารกิจนี้" พลโทฮาเลวี กล่าว
ขณะเดียวกัน นายไอแซก เฮอร์ซอก ประธานาธิบดีอิสราเอล กล่าวว่า อิสราเอลไม่ต้องการทำสงครามกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และเลบานอนจะต้องชดใช้ หากเกิดสงครามขึ้น
"ผมคิดว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์กำลังเล่นกับไฟ และผมขอกล่าวอย่างชัดเจนว่า เราไม่ต้องการเผชิญหน้ากับฝ่ายใดทางชายแดนตอนเหนือของเรา โดยเรากำลังพุ่งเป้าทำลายโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮามาส และนำประชาชนของเรากลับมา แต่ถ้าฮิซบอลเลาะห์ดึงเราเข้าสู่สงคราม เลบานอนก็จะต้องชดใช้" ปธน. เฮอร์ซอกกล่าวในการแถลงข่าวพร้อมกับประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลได้โจมตีเครือข่ายของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ทางตอนใต้ของเลบานอนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์วางแผนที่จะโจมตีอิสราเอลด้วยขีปนาวุธและจรวด ส่งผลให้นักรบของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และทำให้จำนวนสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ที่เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 26 รายนับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.