จีนจัดพิธีฌาปนกิจ 'หลี่เค่อเฉียง' วันนี้ เหล่าผู้นำร่วมแสดงความอาลัย
ทางการจีนจัดพิธีฌาปนกิจอดีตนายกรัฐมนตรี "หลี่เค่อเฉียง" ที่กรุงปักกิ่ง ในวันนี้ เหล่าผู้นำรัฐบาลเข้าร่วมงานพร้อมหน้า ลดธงครึ่งเสาแสดงความไว้อาลัย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในวันนี้ (2 พ.ย. 66) ทางการจีนได้ประกอบพิธีฌาปนกิจร่างของอดีตนายกรัฐมนตรี "หลี่เค่อเฉียง" ซึ่งเป็นสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ชุดที่ 17 ชุดที่ 18 และชุดที่ 19 ณ สุสานการปฏิวัติปาเป่าซาน ในกรุงปักกิ่ง
หลี่เค่อเฉียงได้รับยกย่องเป็นสมาชิกพรรคฯ ที่ดีเยี่ยม นักต่อสู้ของคอมมิวนิสต์ที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี และนักปฏิวัติชนชั้นกรรมาชีพ รัฐบุรุษ และผู้นำของพรรคฯ และรัฐที่โดดเด่น
ทั้งนี้ หลี่เค่อเฉียงเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ในนครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเวลา 00.10 น. ของวันที่ 27 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากความพยายามกู้ชีพเต็มที่ทั้งหมดไม่ประสบผลสำเร็จ โดยหลี่เค่อเฉียงเสียชีวิตด้วยวัย 68 ปี
รายงานระบุว่า บรรยากาศที่หอประชุมของสุสานฯ เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและการบรรเลงบทสวดไว้อาลัยอันโศกเศร้า โดยห้องหลักมีการแขวนป้ายสีดำเขียนอักษรสีขาวว่า "ไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งแด่หลี่เค่อเฉียง" และข้างใต้ป้ายดังกล่าวเป็นภาพถ่ายของเขา ด้านร่างของหลี่เค่อเฉียงปิดคลุมด้วยธงพรรคฯ อยู่ท่ามกลางดอกไม้และต้นสนสีเขียว
ช่วงราว 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงและเผิงลี่หยวน ผู้เป็นภริยา นายกรัฐมนตรีหลี่เฉียง และบรรดาบุคคลสำคัญในพรรคคอมมิวนิสต์จีน อาทิ จ้าวเล่อจี้ หวังฮู่หนิง ช่ายฉี ติงเซวียเสียง หลี่ซี หานเจิ้ง และบุคคลอื่นๆ ทยอยเดินเข้าหาร่างของหลี่เค่อเฉียง ยืนสงบนิ่งเพื่อแสดงความไว้อาลัย และโค้งคำนับสามครั้ง โดยพวกเขาได้จับมือและแสดงความเสียใจกับสมาชิกครอบครัวของหลี่เค่อเฉียง ขณะที่อดีตประธานาธิบดีหูจิ่นเทา จัดส่งพวงหรีดแสดงความเสียใจต่อการจากไปของหลี่เค่อเฉียง
คณะผู้นำพรรคฯ และรัฐคนอื่นๆ ได้แสดงความเคารพครั้งสุดท้ายที่สุสานฯ หรือแสดงความเสียใจผ่านวิธีการต่างๆ ด้านคณะเจ้าหน้าที่ชั้นนำจากหน่วยงานกลางที่เกี่ยวข้อง เพื่อนของหลี่เค่อเฉียง และตัวแทนจากบ้านเกิดของหลี่เค่อเฉียง ได้แสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปของเขาที่สุสานฯ ด้วย
อดีตนายกฯ ผู้มุ่งมั่นผลักดันเศรษฐกิจจีน
นายหลี่สิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหมายความว่าเขาถึงแก่อสัญกรรมในเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากสิ้นสุดการทำหน้าที่ โดยข่าวดังกล่าวได้สร้างความตกใจและเสียใจให้กับประชาชนชาวจีน เนื่องจากนายหลี่เป็นหนึ่งในนายกรัฐมนตรีที่สร้างผลงานมากมายให้กับประเทศ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นในการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่ระดับ 5%
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีได้รวบรวมประวัติและผลงานโดยย่อของนายหลี่ไว้ดังนี้ว่า นายหลี่ได้รับการยอมรับในฐานะผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่การที่เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายหู จิ่นเทา อดีตประธานาธิบดีจีนนั้น ทำให้บางครั้งเขามักจะมีทัศนะคติที่ไม่ตรงกับนายสี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากนายหู จิ่นเทา
ในขณะที่นายหลี่สิ้นสุดการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีแล้วนั้น นายสี จิ้นผิง กลับได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนติดต่อกัน 3 สมัยอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์จีน และได้แต่งตั้งนายหลี่ เฉียง คนสนิทให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจีนคนใหม่ในปีนี้
ในปี 2020 นายหลี่ เค่อเฉียงได้สร้างปรากฎการณ์ด้วยการกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประชาชนกว่า 600 ล้านคนในประเทศจีนยังคงมีรายได้ต่อเดือนเพียง 1,000 หยวน (137 ดอลลาร์) ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่พอแม้แต่จะเช่าห้องพักขนาดกลางในเมืองใดเมืองหนึ่งของจีน
ความมุ่งมั่นในการบริหารประเทศของนายหลี่ได้นำไปสู่การสร้างดัชนีอย่างไม่เป็นทางการที่ชื่อว่า "หลี่ เค่อเฉียง อินเด็กซ์ (Li Keqiang Index)" ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้ปริมาณการใช้ไฟฟ้า, การขนส่งสินค้าทางรถไฟ และการปล่อยกู้ของภาคธนาคาร เป็นมาตรวัดคุณภาพเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตัวเลขเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการของจีนถูกตั้งข้อสงสัยในเรื่องของความแม่นยำ
ในระหว่างการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายหลี่ได้ผลักดันความร่วมมือด้านการค้าระหว่างจีนและประเทศอื่น ๆ รวมทั้งการยกเลิกข้อจำกัดเกี่ยวกับการไหลเวียนของประชาชนและสินค้าภายในประเทศจีน นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ริเริ่มแคมเปญการสร้างผู้ประกอบการและนวัตกรรมครั้งใหญ่
ในปี 2015 นายหลี่ได้ใช้เวทีในการแถลงรายงานการดำเนินงานของรัฐบาลด้วยการเปิดตัวยุทธศาสตร์ "Made in China 2025" ซึ่งเป็นความพยายายามที่จะสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีให้กับจีน โดยยุทธศาสตร์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสหรัฐและยุโรปอย่างกว้างขวาง
ทั้งนี้ นายหลี่เกิดที่มณฑลอันฮุยในเดือนก.ค. 1955 เขาสำเร็จการศึกษาด้านกฎหมายและเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยปักกิ่ง และได้รับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ โดยนายหลี่ได้เข้าเป็นกรรมาธิการถาวรของคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (โปลิตบูโร) ในปี 2007