ด้วยเหตุใด สหรัฐอเมริกากำลังฆ่าตัวเอง? (ตอน 1)

 ประเด็นที่เด่นสุดเกี่ยวเนื่องกับเรื่องการเมือง ซึ่งได้เดินเข้าช่วงเริ่มต้นของกระบวนการคัดเลือกคนเป็นตัวแทนของพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงปลายปีหน้าแล้ว

กระบวนการคัดเลือกตัวแทนครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งก่อนๆ มาก เนื่องจากมีเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับการแตกสลายของระบอบประชาธิปไตยแนวอเมริกันรวมอยู่ด้วย

ผู้สังเกตเหตุการณ์ในสหรัฐมาเป็นเวลานานย่อมตระหนักดีว่า ระบอบประชาธิปไตยในประเทศนั้นถูกบิดเบือนไปมากจากแนวคิดพื้นฐาน นั่นคือ ชาวอเมริกันมีสิทธิมีเสียงไม่เท่ากันมานานแล้ว 

จริงอยู่คะแนนเสียงของทุกคนในปัจจุบันนี้ยังมีค่าเท่ากันในการนับ หลังการออกเสียงลงคะแนนเสร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคะแนนที่มาจากคนจน หรือจากมหาเศรษฐี 

แต่บรรดามหาเศรษฐีมีบทบาทสูงกว่าชาวอเมริกันโดยทั่วไป ทั้งการจะส่งใครเข้าไปเป็นตัวแทนของพรรคและใครจะมีโอกาสได้คะแนนสูงกว่าในบรรดาตัวแทนของพรรคทั้งหมดที่เข้าชิงตำแหน่ง

ทั้งนี้เพราะกระบวนการหาเสียงหรือสื่อสาร จุดยืนพื้นฐานของนักการเมืองถึงประชาชนต้องใช้เงินจำนวนมาก โอกาสที่ผู้ปราศจากมหาเศรษฐีบริจาคเงินทุนสนับสนุนอย่างแข็งขันจะได้เป็นตัวแทนของพรรค หรือชนะการเลือกตั้งมีเพียงจำกัด ส่วนผู้ที่มหาเศรษฐีสนับสนุน ก็ต้องมีจุดยืนที่สะท้อนจุดยืนพื้นฐานของพวกมหาเศรษฐีเหล่านั้น

แม้ผลของการบิดเบือนดังกล่าวจะเป็นที่ประจักษ์อย่างแจ้งชัดแก่สายตาชาวอเมริกันมานาน แต่การมองว่าระบอบประชาธิปไตยแนวอเมริกันอาจแตกสลายเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดการมองเช่นนั้น ได้แก่ ปรากฏการณ์ที่อาจเรียกว่า “ทรัมป์นิยม" ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อปี 2559

ในช่วงเวลา 4 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง เขาแสดงพฤติกรรมจำพวกที่บ่งชี้ว่าไม่เคารพกติกาทางการเมืองแนวอเมริกันมากนัก และเขาอยากเป็นประธานาธิบดีตลอดชีวิตในแนวของผู้นำรัสเซียและเกาหลีเหนือในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเผด็จการมากกว่าประชาธิปไตย

ในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งที่ 2 เขาแพ้แต่ไม่ยอมรับ จึงพยายามหาทางอยู่ในตำแหน่งต่อไปด้วยวิธีต่างๆ รวมทั้งสนับสนุนผู้ทำผิดกฎหมายที่ใช้ความรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายของเจ้าพนักงานรัฐจนเสียชีวิต

ขณะนี้ นอกจากนายทรัมป์จะกำลังถูกดำเนินคดีในด้านเกี่ยวกับกระบวนการทางการเมืองนั้นแล้ว ยังถูกดำเนินคดีการฉ้อโกงในการทำธุรกิจจนเป็นมหาเศรษฐีก่อนที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกด้วย

แต่เขาไม่ย่อท้อ จึงลงสมัครรับเลือกเป็นตัวแทนของพรรคเข้าช่วงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งตอนปลายปีหน้าด้วย 

ในการดำเนินคดี มีข้อมูลต่างๆ เผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับพฤติกรรมจำพวกเลวร้ายของนายทรัมป์ รวมทั้งการไม่เคารพกติกาของสังคมและกระบวนการของศาลยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ผลการหยั่งเสียงทางการเมืองในพรรคของเขา สมาชิกพรรคจำนวนมากยังนิยมเขาอย่างเหนียวแน่น และคงจะส่งเขาเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้งอย่างแน่นอน 

หากความนิยมอย่างเหนียวแน่นนั้น มีผลทำให้เขากลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะหาทางอยู่ในตำแหน่งต่อไปตลอดชีวิต หากนายทรัมป์ทำได้ระบอบประชาธิปไตยแนวอเมริกันย่อมถูกทำลายอย่างสมบูรณ์

ปรากฏการณ์ทรัมป์นิยมจะเป็นอย่างไรต่อไปคาดเดาได้ยาก เนื่องจากมีหลากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ 

ภายในสหรัฐ มีปัจจัยหลายอย่างที่มักเป็นข่าวใหญ่รายวันโดยเฉพาะในด้านสังคม ซึ่งอาจมองว่าเป็นกระบวนฆ่าตัวเองของสังคมอเมริกันเช่นกัน ปัจจัยเหล่านั้นอาจฆ่าสังคมอเมริกัน ก่อนที่มันจะเอื้อให้ปรากฏการณ์ทรัมป์นิยมฆ่าระบอบประชาธิปไตยแนวอเมริกันเสียอีก 

วันศุกร์หน้าจะพูดถึงบางปัจจัยพร้อมกับมองต่อไปว่า ถ้าสหรัฐฆ่าตัวเองสำเร็จทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจ โลกน่าจะเป็นอย่างไรต่อไป จะสงบกว่าในปัจจุบันหรือไม่ในเมื่อผู้นำค่ายประชาธิปไตยในสงครามเย็นไม่สามารถเป็นผู้นำได้อีกต่อไป หรือปัญหาความขัดแย้งจะร้ายแรงกว่าในปัจจุบัน

เนื่องจากปัจจัยภายนอกสหรัฐ จะเข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางของโลกมากยิ่งขึ้น โดยไม่มีอะไรเข้าไปถ่วงดุล