‘ไมโครซอฟท์’ ห้ามพนักงานใช้ ‘ChatGPT’ ชั่วคราว อ้างวิตกด้านความปลอดภัย

‘ไมโครซอฟท์’ ห้ามพนักงานใช้ ‘ChatGPT’ ชั่วคราว อ้างวิตกด้านความปลอดภัย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ไมโครซอฟท์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์จากสหรัฐ ได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI)

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ไมโครซอฟท์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์จากสหรัฐ ได้ทุ่มเม็ดเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในบริษัทโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปผู้พัฒนาแชตจีพีที (ChatGPT) แชตบอตเอไอยอดนิยม แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ ในวันพฤหัสบดี (9 พ.ย.) ไมโครซอฟท์ได้สั่งห้ามไม่ให้พนักงานใช้งาน ChatGPT

“พนักงานไม่สามารถใช้งานเครื่องมือเอไอจำนวนหนึ่งได้อีกต่อไป เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและข้อมูล” ไมโครซอฟท์ระบุในเว็บไซต์ภายในองค์กร ขณะที่ สำนักข่าวซีเอ็นบีซีมีโอกาสเห็นภาพจับหน้าจอ (Screenshot) ที่ระบุว่าพนักงานไม่สามารถใช้งาน ChatGPT บนอุปกรณ์ขององค์กรได้

อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของไมโครซอฟท์และโอเพนเอไอยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

“แม้ไมโครซอฟท์ทุ่มเม็ดเงินลงทุนในโอเพนเอไอและ ChatGPT มีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันการใช้งานที่ไม่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ยังเป็นบริการจากภายนอก นั่นหมายความว่าคุณต้องระมัดระวังการใช้งาน เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย โดยรวมถึงบริการเอไอภายนอกอื่น ๆ เช่นเดียวกัน อาทิ มิดเจอร์นีย์ (Midjourney) หรือเรพลิกา (Replika)”
 

ไมโครซอฟท์เบื้องต้นระบุว่าได้สั่งห้ามใช้ ChatGPT และได้ออกแบบซอฟต์แวร์ชื่อแคนวา (Canva) แต่ภายหลังได้ลบข้อความดังกล่าวออก ก่อนที่จะกลับมาเปิดให้พนักงานใช้งาน ChatGPT ได้อีกครั้งในเวลาต่อมา

บริษัทขนาดใหญ่จำนวนมากได้จำกัดการใช้งาน ChatGPT ซึ่งบ่อยครั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความลับ โดย ChatGPT นั้นได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตและสามารถตอบคำถามได้เสมือนมนุษย์ ส่งผลให้ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านราย