รมช.ต่างประเทศอิหร่าน เยือนไทย หารือหยุดฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์

นายอาลี บาเกรี คานี รมช.ต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งดูแลด้านกิจการเมือง แถลงที่สถานเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทย ผ่านล่ามภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.)  ถึงการมาเยือนไทยว่า เพื่อการหารือทวิภาคีเรื่องความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่แข็งแกร่งขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่จะพัฒนาไปถึงจุดสูงสุดได้อย่างแน่นอน 

นอกจากนี้อิหร่านและไทยยังหารือกันในเรื่องอื่นๆ 

“ยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องตกลงกัน เรื่องสำคัญอีกเรื่องคือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา” รมช.ต่างประเทศอิหร่านกล่าวและว่า ประชาชนทั่วโลกทราบดีว่า ชาวปาเลสไตน์เป็นเจ้าของบ้านที่แท้จริง แต่ถูกระบอบอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่ประชาชนประเทศอื่นๆ มีสิทธิเลือกตั้งแต่ชาวปาเลสไตน์ถูกกดขี่ ไม่ได้รับสิทธิอันชอบธรรมนี้ การโจมตีของไซออนิสต์อิสราเอลได้สร้างความโกรธแค้นในหัวใจผู้คน 

“อิสราเอลต้องเข้าใจว่า ต้องหยุดพฤติกรรมรุกรานของตนเองได้แล้ว ต้องเข้าใจว่าตนคือผู้สร้างปัญหา การเปิดสงครามที่ไม่เท่าเทียมกันครั้งนี้ อิสราเอลต้องพ่ายแพ้แน่นอน การทำสงครามกับเด็ก เด็กจะเป็นผู้ชนะ” อิหร่านสนับสนุนขบวนการต่อต้านทุกขบวนการและสนับสนุนต่อไป เพราะรัฐบาลอิหร่านไม่สนับสนุนสิทธิในการยึดครองปาเลสไตน์

สำหรับสถานการณ์ตัวประกันโดยเฉพาะตัวประกันชาวไทย นายคานีกล่าวว่า ตลอด 45 วันที่ผ่านมาอิหร่านใช้ความพยายามทางการทูตและทุกวิถีทางที่ทำได้ ประสานงานผ่านกลุ่มฮามาสทั้งในปาเลสไตน์และในต่างประเทศ เช่น กาตาร์ เลบานอน เพื่อช่วยเหลือตัวประกันต่างชาติ แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่า ตัวประกันปลอดภัยหรือไม่เนื่องจากกาซาถูกปิดกั้นการสื่อสารทำให้เข้าไม่ถึงข้อมูล 

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการปล่อยตัวประกันหลังจากนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย เดินทางเยือนตะวันออกกลางเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน นายคานีกล่าวว่า ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ปัจจุบันในฉนวนกาซา  อิหร่านหวังเป็นอย่างยิ่งและพยายามเป็นอย่างมาก ถ้าไซออนิสต์อิสราเอลหยุดโจมตีก็จะมีการปล่อยตัวประกันโดยเร็วที่สุด 

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงแนวทางสองรัฐ (two state solution) ว่าเป็นทางออกหรือไม่ รมช.ต่างประเทศอิหร่านระบุ 

“อนาคตของชาวปาเลสไตน์ต้องอยู่ในมือชาวปาเลสไตน์ ต้องสอบถามชาวปาเลสไตน์เองว่าอยากได้อะไร แต่อิหร่านเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า เจ้าของบ้านจะไม่เลือกแนวทางนั้นอย่างแน่นอน เพราะต้องไม่มีพื้นที่ให้ผู้รุกราน” นายคานีกล่าวพร้อมทิ้งท้ายขอวิงวอนชาวโลก อย่านิ่งเงียบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะจะเท่ากับเป็นการสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์