ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ร่วงเกือบ 3 ดอลล์
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(6ธ.ค.) ดิ่งลงต่อเนื่อง ร่วงลงเกือบ 3 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ซบเซา
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนม.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ร่วง 2.94 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 2.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 74.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 4.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล
อย่างไรก็ดี สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาการเดินทางเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลงการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
ปธน.ปูตินเดินทางถึงกรุงอาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ในวันพุธ ก่อนเดินทางเยือนกรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบียในวันเดียวกัน
การเดินทางเยือนตะวันออกกลางครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของปธน.ปูตินนับตั้งแต่ที่รัสเซียใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครนในเดือนก.พ.2565
ทำเนียบเครมลิน ระบุว่า เรื่องของพลังงานจะเป็นประเด็นหลักในการหารือระหว่างปธน.ปูตินกับผู้นำ UAE และซาอุดีอาระเบีย หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการกำหนดโควตาการผลิตน้ำมันอย่างเป็นทางการสำหรับไตรมาสแรกของปี 2567 ในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยจะให้เป็นการปรับลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจของประเทศสมาชิกคิดเป็นจำนวน 2.2 ล้านบาร์เรล/วัน
มติของโอเปกพลัสดังกล่าว สร้างความไม่มั่นใจว่าสมาชิกโอเปกพลัสจะปรับลดกำลังการผลิตตามสัญญาหรือไม่ และจะมีการตรวจสอบอย่างไร
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจจีนที่ซบเซาจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน