'โตโยต้า' เรียกคืนรถ 1.12 ล้านคันทั่วโลก ฉุดหุ้นร่วงแรง 4% ในตลาดโตเกียว

'โตโยต้า' เรียกคืนรถ 1.12 ล้านคันทั่วโลก  ฉุดหุ้นร่วงแรง 4% ในตลาดโตเกียว

'โตโยต้า' เตรียมเรียกคืนรถยนต์ครั้งใหญ่ 1.12 ล้านคันทั่วโลก หลังพบระบบถุงลมนิรภัยมีปัญหา ครอบคลุมรุ่งดังๆ เพียบ อาทิ คัมรี่, โคโรลล่า ฉุดหุ้นร่วงแรง 4% ในตลาดโตเกียว

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่าบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป จะเรียกคืนรถยนต์ 1.12 ล้านคันทั่วโลก เนื่องจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรในตัวเซ็นเซอร์อาจทำให้ถุงลมนิรภัยไม่ทำงานตามที่ออกแบบไว้

การเรียกคืนดังกล่าวครอบคลุมรถยนต์รุ่นปี 2563 ถึง 2565 ซึ่งรวมถึงรถรุ่นอวาลอน (Avalon), คัมรี่ (Camry), โคโรลล่า (Corolla), ราฟ 4 (RAV4), เล็กซัสรุ่น ES250, ES300H, ES350 และ RX350, ไฮแลนเดอร์ (Highlander) และเซียนนา ไฮบริด (Sienna Hybrid) ซึ่งเป็นผลจากการที่ระบบเซ็นเซอร์ Occupant Classification System หรือ OCS ไม่ทำงาน ซึ่งการเรียกคืนรถยนต์ดังกล่าวรวมถึงรถยนต์ 1 ล้านคันในสหรัฐ
 

เซ็นเซอร์ดังกล่าวจะป้องกันไม่ให้ถุงลมนิรภัยทำงาน หากมีผู้ใหญ่ที่ตัวเล็กหรือเด็กนั่งอยู่ที่เบาะหน้า โดยบรรดาตัวแทนจำหน่ายจะทำการตรวจสอบและเปลี่ยนตัวเซ็นเซอร์ใหม่หากจำเป็น โดยโตโยต้าวางแผนที่จะเริ่มแจ้งให้เจ้าของรถทราบเกี่ยวกับการเรียกคืนรถดังกล่าวในเดือนก.พ.

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.ค.2565 โตโยต้าเรียกคืนรถยนต์รุ่น RAV4 จำนวน 3,500 คันในสหรัฐ เนื่องจากกังวลว่าอาจเกิดความบกพร่องของชิ้นส่วนภายใน ซึ่งอาจส่งผลให้ตัวเซ็นเซอร์ OCS ตรวจจับผู้โดยสารได้ไม่ถูกต้อง

สำนักงานความปลอดภัยด้านการคมนาคมบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐ (NHTSA) กล่าวว่า ถุงลมนิรภัยด้านหน้าช่วยชีวิตผู้คนได้มากกว่า 50,000 รายในสหรัฐในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ NHTSA ระบุว่า มีการนำเซ็นเซอร์ใหม่มาใช้เนื่องจากถุงลมนิรภัยรุ่นเก่าทำงานในลักษณะเดียวกันสำหรับทั้งคนขับ และผู้โดยสาร ซึ่งบางครั้งอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ และในบางกรณีอาจถึงแก่ชีวิตได้ เช่น เด็ก ผู้ใหญ่ที่ตัวเล็ก และผู้โดยสารที่ไม่ได้คาดเข็มขัดซึ่งอยู่ใกล้กับถุงลมนิรภัยมากเกินไปในขณะที่ถุงลมพองตัว

ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นของโตโยต้าในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นโตเกียววันนี้ (21 ธ.ค.66) ปิดตลาดดิ่งลงแรงถึง 106.50 จุด หรือ 4.03% มาปิดตลาดที่ 2,537.50 จุด และเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดให้ดัชนีนิกเคอิ 225 ปิดตลาดลดลง 1.50% และดัชนีโทปิกซ์ ปิดลบ 0.9% ในวันนี้ด้วย

  • บริษัทในเครือเพิ่งถูกสอบกรณีปลอมแปลงผลทดสอบ

ก่อนหน้านี้เพียงแค่ 1 วัน "ไดฮัทสุ มอเตอร์ โค" ซึ่งเป็นบริษัทในเครือโตโยต้า มอเตอร์ ได้ประกาศว่าจะระงับการจัดส่งรถยนต์ทั้งหมดทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ หลังการสอบสวนด้านความปลอดภัยพบปัญหาในรถทั้งหมดประมาณ 64 รุ่น ซึ่งรวมถึงรถ 22 รุ่นที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์โตโยต้า

ทั้งนี้ คณะกรรมการอิสระได้ดำเนินการสอบสวนไดฮัทสุ หลังไดฮัทสุได้ออกมาเปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ปลอมแปลงผลการทดสอบความปลอดภัยการชนด้านข้างของรถยนต์ขนาดเล็ก 88,000 คันซึ่งส่วนใหญ่จำหน่ายภายใต้แบรนด์โตโยต้า

การเปิดเผยล่าสุดบ่งชี้ว่า ขอบเขตของกรณีอื้อฉาวดังกล่าวนั้นใหญ่กว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ และอาจทำให้ชื่อเสียงด้านคุณภาพและความปลอดภัยของไดฮัทสุและโตโยต้าแปดเปื้อน

โตโยต้าระบุในแถลงการณ์ว่าจำเป็นต้องมีการปฏิรูปขั้นพื้นฐานเพื่อฟื้นฟูไดฮัทสุในฐานะบริษัทแห่งหนึ่ง นอกเหนือไปจากการทบทวนเรื่องใบรับรองการดำเนินงาน

“นี่จะเป็นภารกิจที่สำคัญมากและไม่อาจทำสำเร็จได้ในเวลาชั่วข้ามคืน โดยไม่เพียงจำเป็นต้องทบทวนเรื่องการดำเนินการด้านการจัดการและธุรกิจเท่านั้น แต่ยังต้องทบทวนเรื่ององค์กรและโครงสร้างด้วย” โตโยต้าระบุ

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานว่า ไดฮัทสุซึ่งผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ได้ทำการปลอมแปลงผลทดสอบด้านความปลอดภัยของรถเกือบทุกรุ่นที่ทางบริษัทผลิตอยู่ในปัจจุบันและบางรุ่นที่เคยผลิตในอดีต

ไดฮัทสุได้ออกมายอมรับในเดือน เม.ย.ว่าได้มีการตรวจพบเรื่องการปลอมแปลงผลการทดสอบด้านความปลอดภัยจริง พร้อมทั้งได้แจ้งเรื่องดังกล่าวต่อหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบและระงับการจัดส่งรถรุ่นที่ได้รับผลกระทบแล้ว

โตโยต้าเปิดเผยว่า ไดฮัทสุผลิตรถ 1.1 ล้านคันในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งเกือบ 40% ผลิตในโรงงานต่างประเทศ ขณะที่ ขายรถไปประมาณ 660,000 คันทั่วโลกในช่วงเวลาเดียวกันและคิดเป็นสัดส่วน 7% ของยอดขายของโตโยต้า

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์