จีนผวา‘คริสต์มาส’อิทธิพลต่างประเทศแรง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ที่มณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน บริษัทจัดการสินทรัพย์แห่งหนึ่งออกประกาศถึงผู้ค้าในห้างสรรพสินค้าไม่ขายบัตรอวยพรคริสต์มาสและของขวัญ และขอไม่ให้แขวนของตกแต่งคริสต์มาส โดยให้เหตุผลว่า ไม่ควรปฏิบัติตามธรรมเนียมต่างประเทศ “อย่างมืดบอด” คนเราควรเชื่อมั่นในวัฒนธรรมของตนเอง

คล้ายๆ กับโรงเรียนในหลายเมืองตั้งแต่ตงกวนทางภาคใต้ไปจนถึงฮาร์บินทางตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ขอให้นักเรียนและผู้ปกครองไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมและวัฒนธรรมต่างชาติโดยไม่ไตร่ตรอง

ที่มณฑลกานซูทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ สันนิบาตยุวชนพรรคคอมมิวนิสต์สาขาท้องถิ่น บอกสมาชิกให้เฉลิมฉลองด้วยการชมภาพยนตร์เรื่อง “The Battle at Lake Changjin” แทน ภาพยนตร์จีนเมื่อปี 2564 เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวการสู้รบดุเดือดระหว่างทหารอาสาประชาชนจีนกับกองทัพสหรัฐในช่วงสงครามเกาหลี

เมื่อวันอาทิตย์ (24 ธ.ค.) ที่เมืองหลางฟาง ในมณฑลเหอเป่ย์ติดกับกรุงปักกิ่งด้านใต้ โพสต์หนึ่งบนแพลตฟอร์ม X เผยภาพกลุ่มตำรวจยืนอยู่ข้างต้นคริสต์มาสสูงนอกโบสถ์ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง พร้อมคำบรรยาย “ช่างน่ากลัวเหลือเกิน”

 ปี 2561 เมืองหลางฟางเคยห้ามตกแต่งคริสต์มาสในที่สาธาณะ และห้ามขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง “เพื่อรักษาความมั่นคงของสังคม”

ทั้งนี้ จีนไม่ได้ห้ามนับถือศาสนาคริสต์ แต่จัดการและดูแลอย่างเข้มงวดเหมือนกับทุกศาสนาที่อนุญาตด้วยกังวลเรื่อง “อิทธิพลต่างประเทศ”

วันคริสต์มาสไม่ใช่วันหยุดราชการในจีนแผ่นดินใหญ่ ที่นับถือศาสนาพุทธและเต๋าเป็นหลัก ส่วนการบูชาบรรพบุรุษนั้นทำได้ ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์โดยทางการเป็นผู้ไม่เชื่อว่ามีพระเจ้า

สัปดาห์ก่อนนายหวัง หูหนิง สมาชิกลำดับที่ 4 ในคณะกรรมการถาวร กรมการเมืองนำโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของพรรคคอมมิวนิสต์ กล่าวกับกลุ่มชาวคริสต์ให้ “ปฏิบัติตามความเป็นคริสเตียนแบบจีน” กล่าวคือ “ต้องตีความลัทธิและกฎระเบียบตามข้อกำหนดและความก้าวหน้าของการพัฒนาจีนร่วมสมัย, ค่านิยมสังคมนิยมหลัก และความเลิศล้ำของประเพณีวัฒนธรรมจีน”

ในภาพรวมหลายปีมาแล้วที่สำนักวาติกันบาดหมางกับรัฐบาลปักกิ่ง เรื่องที่จีนซึ่งมีชาวคาธอลิกราว 12 ล้านคนแต่งตั้งบิช็อปเอง