ราคาน้ำมัน WTI ร่วง หลังสหรัฐเผยสต็อกเบนซินพุ่งสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพฤหัสบดี(4ม.ค.)ปรับตัวร่วงลง 51 เซนต์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้อุปสงค์ที่ซบเซาในตลาด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ลบ 51 เซนต์ หรือ 0.7% สู่ระดับ 72.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 66 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 77.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 215,000 บาร์เรล
ขณะเดียวกัน สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ในทะเลแดง ขณะที่อิหร่านส่งเรือรบอัลบอร์ซเข้าสู่ทะเลแดง หลังจากที่กองทัพเรือสหรัฐได้ทำลายเรือ 3 ลำของกลุ่มกบฏฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านให้การสนับสนุน โดยความเคลื่อนไหวของอิหร่านมีแนวโน้มที่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในทะเลแดงทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจทำให้ปฏิบัติการปกป้องทะเลแดงของกองทัพเรือสหรัฐมีความซับซ้อนมากขึ้น
กลุ่มกบฏฮูตีทำการโจมตีเรือที่แล่นผ่านทะเลแดงนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2566 โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา และเตือนว่าจะโจมตีเรือทุกลำที่มุ่งหน้าไปยังอิสราเอล เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์