หุ้นบริษัทลูก JD.com ดิ่งเหว 46% หลังตรวจสอบภายในพบ 'รายได้สูงเกินจริง'

บริษัทตาตา เน็กซัส ซึ่งดำเนินธุรกิจแพลตฟอร์มค้าปลีกออนดีมานด์และเดลิเวอรี่ และเป็นธุรกิจในเครือของเจดีดอทคอม (JD.com) เปิดเผยว่า บริษัทกำลังดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมต้องสงสัยที่เกิดขึ้นภายในบริษัท ซึ่งรวมถึงการรายงานบัญชีรายได้และต้นทุนเกินจริงถึงราว 1 พันล้านหยวน (เกือบ 5 พันล้านบาท) 

บริษัทระบุว่า พบการแจ้งยอดขายจากโฆษณาและมาร์เก็ตติ้งออนไลน์ที่เกินมูลค่าจริงไปราว 500 ล้านหยวน รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานและการสนับสนุนอีกราว 500  ล้านหยวนเช่นกัน 

เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นของ ตาตา เน็กซัส ดิ่งลงทันทีถึง 46% ขณะที่หุ้นของบริษัทแม่เจดีดอทคอม ลดลง 2% ในการซื้อขายที่ตลาดฮ่องกง วันนี้ (9 ม.ค.)

การพบตัวเลขที่ผิดปกติดังกล่าวระหว่างรอบการตรวจสอบภายในตามปกติ ยังทำให้บริษัทต้องถอนรายงานคาดการณ์รายได้ปี 2023 ออกทันที และบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาอิสระเพื่อเข้ามาช่วยในการประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

"ในระหว่างการตรวจสอบภายในตามปกติ มีการพบแนวทางปฏิบัติที่น่าสงสัยบางประการซึ่งอาจก่อให้เกิดข้อสงสัยกับรายได้บางอย่างจากการโฆษณาและการตลาดออนไลน์ของตาตา รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานและการสนับสนุนของตาตา ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2566" เป็นแถลงการณ์ส่วนหนึ่งที่บริษัทได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ในวันนี้ 

ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม JD Daojia และ Dada Now มักได้รับการพูดถึงบ่อยครั้งในการประชุมรายงานประจำปีของเจดีดอทคอม หลังจากที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในช่วงยุคโควิด-19 และทำให้ผู้บริโภคมองหาซื้อสินค้าใกล้บ้านกันมากขึ้น แต่การเติบโตในระยะหลังอาจเริ่มชะลอตัวลง เนื่องจากบรรยากาศทางเศรษฐกิจในจีนที่แย่ลง และการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากคู่แข่งอย่างเหม่ยถวนและอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิงส์  

ข้อคิดเห็นจากบลูมเบิร์กอินเทลลิเจนซ์

การยอมรับความผิดปกติทางบัญชีของตาตา เน็กซัส ซึ่งมีเจดีดอตคอมถือหุ้นอยู่ 52% จะยิ่งเพิ่มความสงสัยต่อศักยภาพของบริษัทแม่ในการแข่งขันกับบรรดาคู่แข่ง เช่น เหม่ยถวน (Meituan), เอ้อเลอเมอ (Ele.me) และโต่วอิน (Douyin) ในธุรกิจค้าปลีกออนดีมานด์ 

นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ผลขาดทุนการดำเนินงานของตาตา เน็กซัส 3 ไตรมาสระหว่างเดือน ม.ค. - ก.ย.ปีที่แล้ว อาจแย่กว่าที่รายงานเอาไว้ และอาจกดดันรายได้จริงของเจดีดอตคอมในช่วงเดียวกันไปด้วย   

ที่มา: Bloomberg