‘ความมั่นคงอาหารจีน’ สะเทือน! รัฐเร่งปราบ ‘เครื่องจักรซอมบี้’ ปมทุจริตภาคเกษตร
“ความมั่นคงทางอาหาร” ของจีน มาถึงจุดท้าทาย เมื่อเกิดกรณีทุจริตหลายแห่งในจีน จนรัฐบาลต้องเข้าปราบ หลังพบเครื่องจักรคุณภาพแย่ หรือเรียกว่า “เครื่องจักรซอมบี้” ทำให้ได้ธัญพืชที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าคลังสำรองประเทศ
Key Points
- ในปี 2566 ผลเก็บเกี่ยวทางธัญพืชจีนพุ่งแตะ 695 ล้านตัน และรัฐบาลตั้งเป้าหมายในการรักษาผลผลิตดังกล่าวให้อยู่ในระดับมากกว่า 650 ล้านตันขึ้นไปในปีนี้
- ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ช่วงเดือน พ.ย. 2566 มีการทุจริตเช่นนี้ 1,011 กรณีและเจ้าหน้าที่ 1,367 คนถูกลงโทษตามข้อมูลจากหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชันของรัฐ
ไม่เพียงแต่จัดระเบียบภาคธุรกิจเทคโนโลยี เกม การแพทย์ และการเงิน ล่าสุด รัฐบาลจีนหันมาปราบปรามการทุจริตใน “ภาคการเกษตร” โดยสำนักข่าว CCTV, Chinadaily และ South China Morning Post รายงานว่า ในภาคการเกษตรของจีน มีบางบริษัทผลิตและขายเครื่องหว่านปุ๋ยในคุณภาพต่ำออกมา เพื่อให้ได้ส่วนต่างจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลมากขึ้น
ในแต่ละปี รัฐบาลจีน จะให้เงินอุดหนุนหลายพันล้านหยวนแก่เกษตรกร สำหรับการซื้อเครื่องจักรทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตทางอาหารให้ประเทศ เพราะจีนมีประชากรมากถึง 1,400 ล้านคน การมีอาหารอย่างเพียงพอให้ประชาชน หรือที่เรียกว่า “ความมั่นคงทางอาหาร” จึงเป็นหลักชัยสำคัญของจีน
รายงานของ CCTV ระบุว่า เครื่องหว่านปุ๋ยของบริษัท Henan Saiteng Agricultural Machinery มีราคาตามป้ายอยู่ที่ 12,000-19,000 หยวนต่อเครื่อง โดยผู้รับเหมาเครื่องจักรก็จะแจกจ่ายเครื่องให้บรรดาเกษตรกรฟรี เมื่อเกษตรกรโอนเงินอุดหนุนที่ได้รับจากรัฐบาล 5,000 หยวนเข้าบัญชีผู้รับเหมา
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ส่วนต่างระหว่างต้นทุนเครื่องจักรกับเงินอุดหนุนของรัฐมากขึ้น จึงทำให้บางบริษัทผลิตเครื่องจักร “ไม่มีประสิทธิภาพ” และ “ใช้งานไม่ได้จริง” ออกมา จนเกษตรกรเรียกบรรดาเครื่องจักรนี้ว่า “เครื่องจักรซอมบี้” (Zombie Machines) โดยเครื่องหว่านปุ๋ยธรรมดาสามารถหว่านปุ๋ยได้ราว 18.75 ไร่ ส่วนเครื่องจักรซอมบี้กลับหว่านได้เพียง 6.25 ไร่
ด้วยเหตุนี้ กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของจีนจึงเข้าสืบสวนหลายกรณีทุจริตดังกล่าวในมณฑลเหอหนาน มณฑลเจียงซู เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และที่อื่น ๆ พร้อมประกาศกร้าวว่า จะลงโทษบริษัททั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงนี้
ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการสอบวินัยส่วนกลางของจีนแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ (CCDI) ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามการคอร์รัปชันระบุว่า ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ช่วงเดือน พ.ย. 2566 มีการทุจริตเช่นนี้ 1,011 กรณีและเจ้าหน้าที่ 1,367 คนถูกลงโทษทางวินัย โดย “เฮย์หลงเจียง” ถือเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตธัญพืชอันดับต้น ๆ ของจีน แต่กลับมีรายงานเกี่ยวกับปัญหาคุณภาพของธัญพืชในคลังสำรองอยู่หลายกรณี
เมื่อ CCDI สืบสวนก็พบว่า ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทซื้อขายธัญพืชรายหนึ่งไม่ปฏิบัติตามแนวทางการซื้อขายสต็อกเกษตรในเวลาที่เหมาะสม จึงทำให้ธัญพืชสำรองเหล่านี้ขึ้นรา
นอกจากนั้น ผู้บริหารรายนี้ยังสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่สำนักงานธัญพืชระดับท้องถิ่นในการฉ้อโกงรัฐบาล โดยยักยอกเงินอุดหนุนมูลค่าหลายสิบล้านหยวน
อีกกรณีหนึ่งคือ จู อวี่เหวิน อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และผู้อำนวยการสำนักงานธัญพืชประจำมณฑลเฮย์หลงเจียง ถูกตั้งข้อสงสัยว่า ได้รับสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่า 17 ล้านหยวนจากบรรดาบริษัทซื้อขายธัญพืช โดยกว่าครึ่งหนึ่งได้มาในช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานธัญพืชประจำมณฑล
นอกจากนั้น จูถูกกล่าวหาว่า จงใจปล่อยให้ธัญพืชที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้เข้าไปอยู่ในรายการที่ผ่านเกณฑ์สำหรับเก็บในคลังธัญพืชสำรองของประเทศ ถึงแม้ธัญพืชเหล่านั้นถูกตรวจพบว่าละเมิดมาตรฐานของทางการก็ตาม
ซุน ปิง ผู้อำนวยการ CCDI สาขาเฮย์หลงเจียง แสดงความเห็นว่า ถ้าธัญพืชไม่ได้รับการคัดกรองคุณภาพให้ดีพอและถูกเก็บไว้ในคลังสำรองของประเทศแล้ว สิ่งนี้จะกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา จีนหันมาเน้นพึ่งพาตัวเอง และผลิตอาหารเองมากขึ้น โดยลดการนำเข้าธัญพืชจากต่างประเทศลง ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี ข้าวสาร ข้าวโพดและถั่วเหลือง ซึ่งในปี 2566 ผลเก็บเกี่ยวทางธัญพืชในจีนพุ่งทะลุ 695 ล้านตัน และรัฐบาลให้คำมั่นว่าจะรักษาผลผลิตรวมทั้งประเทศให้อยู่ในระดับมากกว่า 650 ล้านตันขึ้นไปในปีนี้
อ้างอิง: scmp, chinadaily