'ไทย' อันดับดีขึ้นสู่ที่ 63 อันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลโลก 2567
'ไทย' ติดอันดับ 63 ในการจัดอันดับพาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2567 ดีขึ้นจากอันดับที่ 64 ในปีที่แล้ว
"ประเทศไทย" ติดอันดับ 63 ในการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตของเฮนลี่ย์ (Henley Passport Index) ประจำปี 2567 โดยขยับขึ้นจากอันดับ 64 ในปี 2566 และ 70 ในปี 2565
โดยปัจจุบันพาสปอร์ตของไทยสามารถใช้เดินทางสู่จุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ทั้งสิ้น 82 จุดหมายปลายทาง เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย ตุรกี อิรัก และบราซิล ซึ่งเพิ่มจาก 79 ประเทศในปีที่แล้ว
ขณะที่อันดับ 1 ในปีนี้เป็นการครองอันดับร่วมกันถึง 6 ประเทศด้วยกันคือ ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 4 ประเทศ ได้แก่ "ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และสเปน" ซึ่งครองอันดับหนึ่งร่วมกับ"ญี่ปุ่น" และ "สิงคโปร์" ขึ้นแท่นพาสปอร์ตที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก
พลเมืองของประเทศเหล่านี้สามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้มากถึง 194 แห่งจาก 227 แห่งทั่วโลก โดยเฉพาะญี่ปุ่นและสิงคโปร์นั้น ครองอันดับ 1 ในดัชนีดังกล่าวมา 5 ปีแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนีดังกล่าวจัดอันดับหนังสือเดินทางทั่วโลก โดยประเมินตามจำนวนจุดหมายปลายทางที่ผู้ถือหนังสือเดินทางเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
ทางด้านเจ้าของสมญานามเสือเอเชียอย่าง "เกาหลีใต้" ตามมาเป็นอันดับ 2 ร่วมกับ "ฟินแลนด์" และ "สวีเดน" ซึ่งสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า 193 แห่ง
ส่วนอีก 4 ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปอย่าง ออสเตรีย เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ครองอันดับ 3 โดยสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ ได้ 192 แห่ง
ขณะที่อันดับที่เหลือใน 10 อันดับแรกส่วนใหญ่ตกเป็นของประเทศในแถบยุโรป โดยพาสปอร์ตของ "สหราชอาณาจักร" ไต่ขึ้นสองอันดับมาอยู่ที่อันดับ 4 ซึ่งสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 191 แห่ง เทียบกับเพียง 188 แห่งในปีที่แล้ว
ผู้ถือหนังสือเดินทางของ "ออสเตรเลีย" และ "นิวซีแลนด์" ต่างไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 6 ซึ่งสามารถเดินทางไปยังจุดหมายต่าง ๆ โดยไม่ต้องขอวีซ่าได้ 189 แห่ง ส่วนหนังสือเดินทางของ "สหรัฐ" ยังรั้งอันดับ 7 โดยสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ ได้ 188 แห่งโดยไม่ต้องขอวีซ่า
ทั้งนี้ นับมาเป็นเวลาถึงหนึ่งทศวรรษแล้วนับตั้งแต่ที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐร่วมกันครองอันดับ 1 ในดัชนีดังกล่าวเมื่อปี 2557
สำหรับ 10 ชาติในกลุ่มประเทศ "อาเซียน" นั้น นำโดยสิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน ไทย และอินโดนีเซีย โดยมีอันดับดังนี้