มอง “เอกวาดอร์” โยงต่อมาถึงไทย | ไสว บุญมา

มอง “เอกวาดอร์” โยงต่อมาถึงไทย | ไสว บุญมา

เอกวาดอร์ เป็นหนึ่งในประเทศละตินอเมริกันที่มีเรื่องราวน่าสนใจ แต่มักถูกมองข้ามเนื่องจากมีขนาดเล็กกว่าประเทศที่มีปัญหาสาหัสโดยเฉพาะอาร์เจนตินากับเวเนซุเอลา หรือมีนักฟุตบอลกระฉ่อนโลกเช่นบราซิล

ในโลกปัจจุบันซึ่งมีการท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมสำคัญยิ่ง เอกวาดอร์ได้รับความสนใจในแง่ที่มีหมู่เกาะกาลาปากอส  หมู่เกาะนี้มีเต่ายักษ์ซึ่งหนักกว่า 200 กก. และอยู่ได้นานนับร้อยปี 

นอกจากนั้น หมู่เกาะนี้ยังเป็นที่สนใจของนักวิชาการอีกด้วย ทั้งนี้เพราะเป็นแหล่งที่เมื่อเกือบ 200 ปีก่อน นักธรรมชาติวิทยานามกระฉ่อน ชาร์ล ดาร์วินเดินทางไปศึกษาและผลิตทฤษฎีวิวัฒนาการออกมาให้พิจารณาคู่กับแนวคิดด้านการสร้างสรรพสิ่งโดยพระผู้เป็นเจ้า

เรื่องราวน่าสนใจในเอกวาดอร์ในขณะนี้มี 2 เรื่องซึ่งอาจเกี่ยวเนื่องกัน นั่นคือ สื่อใหญ่ซีเอ็นเอ็นเพิ่งเสนอสารคดีเกี่ยวกับชาวจีนจำนวนมากเดินทางจากเอกวาดอร์ไปขอลี้ภัยในสหรัฐ เช่นเดียวกับชาวละตินอเมริกัน และเอกวาดอร์เพิ่งประกาศภาวะฉุกเฉินอีกครั้งหลังทำมาแล้วเมื่อปีกลาย

สำหรับด้านการไปลี้ภัยของชาวจีน ทั้งที่มีภาพของความก้าวหน้าสารพัดด้านพร้อมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของจีน แต่มีชาวจีนในวัยทำงานจำนวนมากหาทางไปลี้ภัยในสหรัฐ 

ทางหนึ่งที่พวกเขานิยมคือ จ่ายเงินให้นายหน้าจัดการเริ่มจากการบินไปเตรียมตัวที่เอกวาดอร์  หลังจากนั้น จึงเดินทางด้วยรถโดยสารผ่านโคลัมเบียและประเทศในอเมริกากลางไปทะลุเม็กซิโกและต่อไปจนถึงชายแดนสหรัฐ 

การเดินทางนี้มีความเสี่ยงสูงมาก  ผู้สังเกตการณ์มองว่ากิจการนายหน้าคงมีกลุ่มอั้งยี่ในเอกวาดอร์ร่วมมือด้วย

ส่วนด้านการประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อต้นสัปดาห์นี้ กลุ่มอั้งยี่มีบทบาทสูงแน่นอน ทั้งนี้เพราะหัวหน้ากลุ่มอั้งยี่ใหญ่ที่โหดมากเพิ่งหลบหนีออกจากคุกซึ่งแน่นหนาที่สุด 

ถ้าไม่มีพนักงานของรัฐร่วมมือด้วย การหลบหนีแทบเป็นไปไม่ได้  แต่ผู้สังเกตการณ์ไม่แปลกใจเพราะในเอกวาดอร์มีความฉ้อฉลสูงมากทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน 

(ดัชนีชี้บ่งความฉ้อฉลขององค์กรความโปร่งใสสากลล่าสุดชี้ว่าเอกวาดอร์ฉ้อฉลสูงมาก จึงได้คะแนนเพียง 36 จาก 100 เท่ากับของไทยในปี 2565)

  รัฐบาลมองว่าหัวหน้าอั้งยี่คนนี้อาจหลบหนีได้อีกนานหากไม่มีการใช้กำลังทหารและตำรวจออกค้นหาแบบปูพรมทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน

เมื่อปีกลาย เอกวาดอร์ประกาศภาวะฉุกเฉิน 60 วันเพื่อแก้วิกฤติการเมืองหลังรัฐสภาถูกยุบ เพราะเริ่มไต่สวนเรื่องความฉ้อฉลของประธานาธิบดี

และในกระบวนการเลือกตั้งใหม่ผู้สมัครเป็นประธานาธิบดีคนสำคัญถูกยิงตายในขณะหาเสียง  แต่เรื่องไม่บานปลายจนถึงกับทหารกลับมายึดอำนาจอีกครั้ง ทั้งนี้คงเพราะประธานาธิบดีที่ถูกไต่สวนไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย

เอกวาดอร์ผลิตน้ำมันปิโตรเลียมได้มากและเคยเป็นสมาชิกในองค์การของประเทศส่งน้ำมันออก (OPEC) 

แต่ดังเป็นที่ทราบกันดี การมีน้ำมันมิใช่เป็นการได้พรจากสวรรค์เสมอไป  ตรงข้ามน้ำมันเป็น “อุจจาระของปีศาจ” ซึ่งอาจนำคำสาปแสนสาหัสมาให้  เวเนซุเอลาเป็นประเทศละตินอเมริกันที่มีน้ำมันมากที่สุดและในขณะนี้มีปัญหาสาหัสที่สุดเพราะคำสาปนั้น

เอกวาดอร์ประสบปัญหาสาหัสเช่นกัน  แต่มักไม่เป็นที่สนใจของชาวโลกมากนักเนื่องจากมีประชากรไม่ถึง 18 ล้านคน ไม่มีบทบาทโดดเด่นบนเวทีโลก

และที่น่าจะสำคัญยิ่งกว่านั้นคือ ไม่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับสหรัฐเช่นเวเนซุเอลา  ตรงข้าม เอกวาดอร์ใช้ดอลลาร์สหรัฐแทนเงินตราของตนเองมากว่า 3 ปีเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจอันยืดเยื้อโดยเฉพาะด้านการมีภาวะเงินเฟ้อสูง 

ปรากฏว่าแก้ปัญหาเงินเฟ้อได้ทันที  ตอนนี้อัตราเงินเฟ้อของเอกวาดอร์ต่ำว่า 3% แทนที่จะเป็นใกล้ 100% เช่นในตอนก่อนใช้ดอลลาร์

เอกวาดอร์กับไทยไม่มีอะไรคล้ายกันนักนอกจากระดับความฉ้อฉลสูง  แต่คนไทยเหนือชั้นกว่าถ้ามองด้านการปฏิบัติความฉ้อฉลโดยการเปรียบเทียบเรื่องนักโทษหมายเลข 1

นักโทษหมายเลข 1 ของเอกวาดอร์หลบหนีออกจากคุกไปทำให้ภาครัฐออกล่าแบบพลิกแผ่นดิน  ส่วนนักโทษหมายเลข 1 ของไทยหนีออกนอกประเทศไปชั่วคราวแล้วกลับมาโดยไม่ต้องเข้าคุก 

ภาครัฐไม่ต้องออกล่าให้เสียค่าใช้จ่าย หากทำเพียงแถลงซ้ำ ๆ ว่านักโทษป่วย จึงนอนอยู่ในโรงพยาบาลมานานหลายเดือน  จะจริงเท็จอย่างไรมีคนสงสัยหลายล้านคน.