'จีน' ขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์โลกเบอร์ 1 ทำยอดนิวไฮทะลุ 4.9 ล้านคัน
จีนจ่อขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของโลกอย่างเป็นทางการ หลังตัวเลข 12 เดือนทำนิวไฮทะลุ 4.9 ล้านคัน คาด 'ญี่ปุ่น' ไล่ตามไม่ทัน
เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน (MIIT) เปิดเผยว่า การส่งออกรถยนต์ของจีนปี 2566 แตะ 4.91 ล้านคัน ซึ่งจีนน่าจะขึ้นแท่นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว
นายซิน กั๋วปิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและสารสนเทศ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ยอดการส่งออกรถยนต์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่ผลิตในจีนได้มอบทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้น หลังสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (CAAM) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การส่งออกรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้น 57.9% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.91 ล้านคันในปี 2566 เนื่องจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์จีนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ
การขยายตัวขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกรถยนต์ NEV ที่พุ่งขึ้นถึง 77.6% สู่ระดับมากกว่า 1.2 ล้านคันในช่วงปีที่ผ่านมา และการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่มีเครื่องยนต์ (Pure Electric Vehicle) ขยายตัวขึ้น 80.9% ในขณะการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดเพิ่มขึ้น 47.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวเอ็นเอชเครายงานว่า ยอดการส่งออกรถยนต์ของ "ญี่ปุ่น" ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ราว 3.99 ล้านคัน ซึ่งทำให้คาดว่าตัวเลขที่เหลิออีกเพียงเดือนเดียวในเดือน ธ.ค. จะไม่สามารถตามทันตัวเลขจากฝั่งจีนได้ และจะส่งผลให้ญี่ปุ่นถูกจีนโค่นแชมป์ผู้ส่งออกรถยนต์เบอร์ 1 ของโลก "เป็นครั้งแรก"
ทั้งนี้ นอกจากคาดว่าจะชิงตำแหน่งผู้ส่งออกรถเบอร์ 1 ของโลกมาได้แล้ว จีนยังรั้งแชมป์ประเทศผู้ผลิตรถยนต์มากที่สุดในโลกได้เป็นปีที่ 15 อีกด้วย โดยมีการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ภายในประเทศทะลุ 30 ล้านคันทั้งคู่ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่และนับเป็นการเติบโตแบบปีต่อปีที่ 11.6% และ 12% ตามลำดับ