‘ฮ่องกง’ เผชิญวิกฤติ ‘ครูแห่ลาออก’ ถอนเงินจากกองทุนบำนาญกว่า 45,000 ล้านบาท

‘ฮ่องกง’ เผชิญวิกฤติ ‘ครูแห่ลาออก’ ถอนเงินจากกองทุนบำนาญกว่า 45,000 ล้านบาท

ฮ่องกงสูญเงินแล้วกว่า “45,000 ล้านบาท” ! จับตาวิกฤติ “ครูแห่ลาออก” หลัง “ฮ่องกง” เผชิญวิกฤติจากคลื่นการย้ายถิ่น ทำครูลาออกก่อนเกษียณอายุงาน สื่อนอกระบุ กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติอาจมีผลต่อการตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป

“ฮ่องกง” เคยเกิดการประท้วงครั้งใหญ่ จากกรณีการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของทางการจีนในปี 2562 โดยกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต้องการเรียกร้องเสรีภาพในการปกครองตนเองเพิ่มมากขึ้น กระทั่งเดือนตุลาคม 2566 “จอห์น ลี” (John Lee) ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงประกาศว่า ภายในปี 2567 จะเดินหน้าสร้างกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งหมุดหมายครั้งนี้ก็อาจมีผลกับการตัดสินใจของบรรดาครูวิชาชีพในฮ่องกง หลังมีรายงานข่าวระบุว่า ระหว่างปี 2565 ถึง 2566 ครู และครูใหญ่ในฮ่องกงลาออกพร้อมถอนเงินออกจากกองทุนบำนาญรวมกันมากถึง “1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ” หรือคิดเป็นเงินไทยราว “45,000 ล้านบาท”

ท่ามกลางคลื่นการอพยพย้ายถิ่นของฮ่องกงในรอบหลายปีที่ผ่านมาพบว่า มีแนวโน้มการลาออก และถอนเงินออกจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเรื่อยมา โดยระหว่างปี 2564 ถึง 2565 มีครูลาออกจากโรงเรียนที่ได้รับเงินในรูปแบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และเงินอุดหนุน จำนวน 3,432 คน และระหว่างปี 2565 ถึง 2566 มีครูลาออกทั้งสิ้น 3,238 คน โดยสำนักงานการศึกษาได้เปิดเผยรายงานประจำปีของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีการศึกษา 2566 โดยมีเหตุปัจจัยจากการเกษียณอายุ ลาออก รวมถึงเหตุผลอื่นๆ พบว่า ครูแต่ละคนจะได้รับเงินโดยเฉลี่ยจากทั้งสองกองทุนราว “3 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง” หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ “13 ล้านบาท”

สำนักข่าว “เซาท์ ไชน่า มอนิ่ง โพสต์” (South China Morning Post) ระบุว่า ตัวแทนจากภาคการศึกษามองว่า มีความจำเป็นที่จะต้องจับตาดูผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ว่า มีผลต่อการตัดสินใจลาออกของบรรดาครูหรือไม่ โดยพบว่า ไม่กี่ปีที่ผ่าน บุคลากรครูลาออกจากวิชาชีพสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยอัตราการลาออกในระดับชั้นอนุบาลสูงสุดอยู่ที่ 17.6% ตามมาด้วยระดับชั้นประถมศึกษา 8.5% และระดับชั้นมัธยมศึกษา 9.8% ทว่าจำนวนครูที่ลาออกกลับไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาคการศึกษามากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาจำนวนชั้นเรียนถูกตัดทอนออกไปเยอะพอสมควร จากผลกระทบเรื่องจำนวนเด็กนักเรียนที่ลดน้อยลง 

อย่างไรก็ตาม กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่มีการบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา เคยทำให้ครูอย่าง 4 คน ถูกถอนใบอนุญาตตลอดชีวิต เนื่องจากมีการพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง เปิดสื่อการสอนที่มีหัวข้อเกี่ยวกับเอกราชของฮ่องกง ให้รายละเอียดกับนักเรียนที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ “สงครามฝิ่น” ระหว่างจีนและอังกฤษ และคนสุดท้าย ถูกถอนใบอนุญาตจากการถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการประท้วงในปี 2562

นอกจากนี้ ยังมีครูอีก 150 คน ที่ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ความไม่สงบทำให้ถูกลงโทษทางวินัยด้วยการตำหนิ ตักเตือน รวมถึงการแจ้งเตือนด้วยวาจา โดยในปี 2565 สำนักงานแก้ไขจรรยาบรรณวิชาชีพกำหนดให้ครูต้องทำหน้าที่ส่งเสริมการศึกษาระดับชาติอย่างจริงจัง รวมถึงรายงานกิจกรรมที่อาจผิดกฎหมาย หรือมีข้อมูลบางประการที่เข้าข่าย “เบี่ยงเบนทางศีลธรรม” หากฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามอาจถูกถอดถอนใบอนุญาตในภายหลังได้

ในอนาคตคาดว่า ครูใหม่ในโรงเรียนที่ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล และผู้ที่ได้รับการเลื่อนขั้นในโรงเรียนต้องเข้าร่วมทัศนศึกษาในประเทศจีนตั้งแต่ปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป เพื่อได้รับโอกาสในการเสริมสร้างความสามารถ และได้รับการปลูกฝังเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของชาติ

 

อ้างอิง: InfoquestSouth China Morning PostThaipost

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์