ราคาน้ำมันโลก WTI ดีดตัวขึ้น 55 เซนต์ หลังสต็อกเบนซินลดลง
ราคาน้ำมัน WTI ปิดวันพุธ(7ก.พ.)ดีดตัวขึ้น 55 เซนต์ โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์ในตลาด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. บวก 55 เซนต์ ปิดที่ 73.86 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ ปิดที่ 79.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 140,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 1.9 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในปีนี้ ทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) โดยระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเพียง 170,000 บาร์เรล/วัน ลดลงจากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 290,000 บาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันถูกกดดัน หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าอาจจะมีการทำข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส โดยนายโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ กล่าวว่า กาตาร์ได้รับ "คำตอบที่เป็นบวก" จากกลุ่มฮามาสเกี่ยวกับข้อตกลงพักรบกับอิสราเอลเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลและนักโทษปาเลสไตน์
ทั้งนี้ นายอัล ธานีประกาศความคืบหน้าในการเจรจาดังกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
ด้านนายบลิงเคนกล่าวว่า แม้ว่ายังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากเพื่อบรรลุข้อตกลงพักรบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส แต่สหรัฐเชื่อว่าข้อตกลงดังกล่าวมีความเป็นไปได้ และมีความสำคัญ พร้อมกับกล่าวขอบคุณกาตาร์ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค