รัฐบาลสหรัฐจ่ออุดหนุน 'อินเทล' หมื่นล้าน กระตุ้นการผลิตชิปในประเทศ
รัฐบาลไบเดนเจรจาอินเทล เล็งให้เงินอุดหนุนหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปในสหรัฐ หลังมีรายงานข่าวอินเทลชะลอแผนสร้างโรงงานใหญ่สุดในโลกที่โอไฮโอ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่ออุดหนุนบริษัท อินเทล คอร์ป (Intel Corp.) เป็นเงินกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ (กว่า 3.6 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะเป็นการมอบเงินอุดหนุนครั้งใหญ่ที่สุดภายใต้แผนการของรัฐบาลสหรัฐ ที่จะดึงดูดผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ให้กลับมาดำเนินการผลิตชิปในสหรัฐ แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า
มาตรการอุดหนุนอินเทลนั้นคาดว่าจะมีทั้งเงินกู้และเงินช่วยเหลือโดยตรง โดยยังคงมีการเจรจากันอยู่ในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์สหรัฐและอินเทลปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวนี้
ทั้งนี้ มาตรการจูงใจดังกล่าวจะมาจากกฎหมายชิปและวิทยาศาสตร์ปี 2565 (Chips Act) ซึ่งจัดสรรเงินช่วยเหลือโดยตรงจำนวน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมถึงเงินกู้และการค้ำประกันเงินกู้มูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อให้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของโลกกลับมาทำการผลิตชิปในสหรัฐ หลังจากดำเนินการผลิตในต่างประเทศมานานหลาย 10 ปี
ก่อนหน้านี้ อินเทลได้ประกาศแผนลงทุนมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในโรงงานผลิตชิปที่รัฐแอริโซนาและนิวเม็กซิโก รวมถึงจะเปิดโรงงานแห่งใหม่ในรัฐโอไฮโอที่คาดว่าจะกลายเป็นโรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่วอลสตรีทเจอร์นัลเพิ่งรายงานข่าวเมื่อต้นเดือนนี้ว่า แผนการเปิดโรงงานที่โอไฮโอต้องชะลอออกไปก่อนจนถึงปี 2569 เนื่องจากภาวะชะลอตัวในตลาดชิปและการอุดหนุนของรัฐบาลที่ล่าช้า
ทั้งนี้ หุ้นอินเทล พุ่งขึ้นมากถึง 1.1% ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์หลังบลูมเบิร์กรายงานข่าวนี้ แต่ปิดตลาดลดลง 1.23% และราคาหุ้นร่วงลง 13% แล้วในปีนี้