'ซอฟท์แบงก์' เดิมพันใหญ่ AI จ่อตั้งบริษัทร่วมทุนแสนล้านแข่ง 'อินวิเดีย'
สื่อนอกชี้ 'มาซาโยชิ ซัน' เตรียมเดิมพันครั้งใหญ่สุดตั้งบริษัทผลิตชิปเอไอขึ้นมาแข่งกับเจ้าตลาด 'อินวิเดีย' หวังชนะเดิมพันใหญ่เหมือนที่ 'ไมโครซอฟท์' เลือกข้างถูกกับโอเพนเอไอ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า "มาซาโยชิ ซัน" ผู้ก่อตั้งซอฟท์แบงก์ กรุ๊ป (Softbank) ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนรายใหญ่จากญี่ปุ่น กำลังพิจารณาระดมทุนสูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ (ราว 3.6 ล้านล้านบาท) เพื่อเปิดบริษัทร่วมทุนที่จะขึ้นมาแข่งขันกับบริษัทผลิตชิป "อินวิเดีย" และจัดหาเซมิคอนดักเตอร์ที่สำคัญต่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
แหล่งข่าวเปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่า โครงการดังกล่าวซึ่งใช้โค้ดเนมว่า "อิซานางิ" (Izanagi) ซึ่งเป็นชื่อเทพเจ้าแห่งการกำเนิดของญี่ปุ่น จะเป็นความพยายามครั้งสำคัญครั้งใหม่ของซัน
ซันคาดว่าบริษัทที่จะร่วมทุนดังกล่าวจะรวมถึง "อาร์ม โฮลดิงส์" (Arm Holdings) ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ของอังกฤษที่ซอฟต์แบงก์เข้าไปร่วมลงทุนด้วย
หนึ่งในรูปแบบของบริษัทร่วมลงทุนแห่งใหม่ที่ซันกำลังพิจารณานั้น รวมถึงการที่ซอฟต์แบงก์จะลงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะระดมทุนอีก 7 หมื่นล้านดอลลาร์ จากบรรดานักลงทุนสถาบันในตะวันออกกลาง แต่ยังไม่มีการสรุปรายละเอียดที่แน่ชัดในขณะนี้ และโครงการดังกล่าวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้อีก
ทั้งนี้ ซันเป็นนักลงทุนชื่อดังที่สร้างชื่อจากการลงทุนใน "อาลีบาบา" (Alibaba) ตั้งแต่ช่วงต้น ซึ่งถือเป็นการเดิมพันที่ถูกต้องก่อนที่อาลีบาบาจะเติบโตเป็นอาณาจักรอีคอมเมิร์ซระดับโลกจากจีน ทว่าธุรกิจที่ลงทุนในช่วงหลังประสบปัญหาหลายราย เช่น "วีเวิร์ก" (WeWork) จนกระทั่งได้ธุรกิจชิปเข้ามากู้ความสำเร็จในช่วงหลังจากการลงทุนในอาร์ม โฮลดิงส์ ที่ซอฟต์แบงก์ถือหุ้นอยู่ราว 90%
หากซันประสบความสำเร็จในแผนการลงทุนครั้งใหม่นี้ ก็อาจจะเป็นการลงทุนในด้านเอไอครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมานับตั้งแต่บริษัท "ไมโครซอฟท์" เข้าลงทุนกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ในบริษัท "โอเพนเอไอ" และทำให้ไมโครซอฟท์อยู่ในกลุ่มหัวแถวของสมรภูมิการแข่งขันเอไอของโลก
แหล่งข่าวระบุด้วยว่าโดยส่วนตัวแล้ว ซันเป็นคนที่เชื่อในเทคโนโลยีเอไอมาหลายปีแล้ว และมีการกล่าวถึงปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) หลายครั้ง โดยมองว่าโลกที่เต็มไปด้วยแมชชีนที่ฉลาดกว่ามนุษย์ จะเป็นโลกที่ปลอดภัยกว่า ดีกว่า และมีความสุขมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนของซอฟท์แบงก์และอาร์ม ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ในเรื่องนี้