'นิสสัน' เล็งจับมือ 'ฮอนด้า' ทำ EV สื่อชี้ลุยเดี่ยวสู้จีนไม่ไหว

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าว 3 รายที่เกี่ยวข้องว่า บริษัท "นิสสัน มอเตอร์" (Nissan) กำลังพิจารณาการจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ "ฮอนด้า มอเตอร์" (Honda) ในด้านองค์ประกอบสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เพื่อลดต้นทุนการผลิตและขยายสเกลธุรกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันกับยักษ์อีวีรายใหญ่จาก "จีน" และสหรัฐได้

แหล่งข่าวระบุว่า การหันมาร่วมมือกับคู่แข่งในบ้านอย่างฮอนด้าจะช่วยให้นิสสันสามารถขยายสเกลธุรกิจได้ และยังถือเป็นหัวใจสำคัญของเหล่าค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นที่ต้องรับมือกับการแข่งขันอย่างดุเดือดในตลาดรถยนต์อีวี ทั้งจาก "บีวายดี" (BYD) ซึ่งเป็นค่ายรถอีวีเบอร์ 1 ของโลกในขณะนี้จากจีน, เทสลา (Tesla) ค่ายรถอีวีรายใหญ่จากสหรัฐ และบรรดาคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด 

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับนิสสันระบุด้วยว่า ทั้งนิสสันและฮอนด้ายังไม่ได้เริ่มการเจรจากันอย่างเป็นทางการ และยังไม่ได้มีการกำหนดขอบเขตความร่วมมือที่คาดว่าจะเจรจากัน ขณะที่แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งเปิดเผยว่า แนวคิดการจับมือเป็นพันธมิตรกันนี้มาจากฝ่ายผู้บริหารของทั้งสองบริษัท 

รายงานระบุว่า นิสสันกำลังพิจารณาว่าอาจจะร่วมมือกับฮอนด้าในด้านชิ้นส่วนอีวี รวมไปถึงความร่วมมือในการผลิต "เคคาร์" (kei car) หรือรถกล่องคันจิ๋วขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 660 ซีซี ที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าฮอนด้ามีความร่วมมือด้านอีวีในตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว โดยเป็นพันธมิตรกับค่ายเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) จากสหรัฐ 

ทั้งนี้ ทีวี โตเกียว เป็นสื่อแรกที่นำเสนอข่าวนิสสันมองหาพันธมิตรอีวี แต่ทางโฆษกของนิสสันและฮอนด้ายังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้ 

ทางด้านแหล่งข่าวจากบริษัทฮอนด้าเปิดเผยว่า การจับมือเป็นพันธมิตรกับนิสสันนั้นเป็นหนึ่งในความเป็นไปได้หลายแนวทางที่บริษัทกำลังพิจารณาอยู่ แต่ยังมีวาระอีกหลายเรื่องที่ยังต้องเคลียร์ก่อนที่จะเดินหน้าคุยเรื่องพันธมิตรกัน 

สำหรับฮอนด้าได้วางเป้าหมายที่จะผลิตรถยนต์อีวีและรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง (ฟิวเซลล์) ให้เป็น 100% ของกำลังการผลิตภายในปี 2583 

ขณะที่นิสสันก็มีความร่วมมือด้านอีวีกับค่ายเรโนลต์ (Renault) จากฝรั่งเศสอยู่แล้ว โดยมุ่งตลาดยุโรปเป็นหลัก เช่น นิสสัน ไมครา ที่ใช้โครงสร้างเดียวกันกับ เรโนลต์ ไฟว์ ตัวใหม่ ซึ่งผลิตจากโรงงานเดียวกันที่ประเทศฝรั่งเศส และนิสสันยังประกาศจะลงทุนมากถึง 600 ล้านยูโร (ราว 2.3 หมื่นล้านบาท) ในแอมแปร์ (Ampere) ซึ่งเป็นบริษัทรถอีวีใหม่ของเรโนลต์ด้วย 

อย่างไรก็ตาม นิสสันและเรโนลต์ได้ลดระดับความเป็นพันธมิตรอันยาวนานระหว่างกันเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเปิดทางให้ทั้งคู่ดำเนินธุรกิจได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น จึงได้เห็นเรโนลต์ลงนามความร่วมมือกับหุ้นส่วนใหม่อย่าง จีลี่ (Geely) ในประเทศจีนตามมา