ไทยมอบสิ่งของช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ 'เมียนมา' ครั้งแรก ณ ศุลกากรแม่สอด

เช้าวันนี้ เวลา 7.00 น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับ กองทัพบก สภากาชาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองกำลังนเรศวร ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ปลัดจังหวัดตาก นายอำเภอแม่สอด และผู้แทนชุมชนท้องถิ่น ลงพื้นที่ด่านศุลกากรแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย-ตองยิน แห่งที่ 2 เพื่อส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา โดยมี ศูนย์ประสานงานอาเซียน เพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ (ASEAN Coordinating Centre for Humanitarian Assistance on disaster management: AHA Centre) ร่วมสังเกตการณ์

จากนั้นกิ่งกาชาดอำเภอแม่สอด ในฐานะผู้แทนสภากาชาดไทย ได้ส่งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือให้แก่ โอง ไว ประธานสภากาชาดเมียนมา สาขาจังหวัดเมียวดี ในฐานะผู้แทนสภากาชาดเมียนมา จำนวน 4,000 ถุง โดยในถุงประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง และของอุปโภคบริโภคอื่นๆ สำหรับประชาชนชาวเมียนมาประมาณ 20,000 คน

ต่อมามีการปล่อยขบวนรถ 10 คัน ออกจากด่านศุลกากรแม่สอด ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เพื่อขนส่งสิ่งของช่วยเหลือเข้าไปยังเมียนมาใน 3 พื้นที่รัฐกะเหรี่ยง ประกอบด้วย บ้านนาบู บ้านตามันยา และบ้านไปร่โจง

นายสีหศักดิ์ ยืนยันว่า ไทยมีเจตนาที่ดีที่จะให้ความช่วยเหลือชาวเมียนมา โดยไม่มีการแบ่งแยก ไม่เกี่ยวกับเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าโครงการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ จะเป็นโครงการนำร่องและเป็นสัญลักษณ์ในความหวังดีของชาวไทยต่อชาวเมียนมา อีกทั้งโครงการนี้ป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ไทยจึงยินดีที่ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดให้การสนับสนุนในการดำเนินการ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความช่วยเหลือครั้งนี้จะช่วยนำพาความเปลี่ยนแปลงและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในประเทศ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อไป

ส่วนความเป็นไปได้ที่ไทยจะเปิดเจรจาสันติภาพ หลังจากวันนี้ได้เริ่มในการมอบความช่วยเหลือฯ นั้น นายสีหศักดิ์ บอกว่า ถ้าความช่วยเหลือวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็จะมีการขยายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่อื่นๆต่อไป ขณะเดียวกันเราปรารถนาจะเห็นเมียนมามีสันติ มีเสถียรภาพ มีเอกภาพ พร้อมมองว่าปัญหาภายในเมียนมา กลุ่มต่างๆ ต้องแก้ไขกันเอง ซึ่งไทยพร้อมสนับสนุนการกลับไปสู่กระบวนการหารือ

“สิ่งที่ไทยทำวันนี้เป็น 1 ในฉันทามติ5 ข้อจากอาเซียน ซึ่งจากการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน เมื่อต้นปีที่ผ่านมา อาเซียนให้การสนับสนุน และประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้าน พร้อมที่จะช่วยเหลือเรื่องการหารือ แต่ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกลุ่มต่างๆในเมียนมา ด้วย เราจะบังคับให้เขามาสู่โต๊ะเจรจาไม่ได้ แต่เชื่อว่าความช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี เป็นการย้ำให้ทิ้งเรื่องการเมืองไว้ก่อน และมาทำเรื่องมนุษยธรรม ซึ่งจะนำร่องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกันโดยนำความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง เมื่อตรงนี้เรียบร้อยก็หวังว่าจะนำไปสู่การก้าวข้ามความขัดแย้งในปัจจุบัน” นายสีหศักดิ์ กล่าว