“ไบต์แดนซ์”ยืนยัน ยอมปิดกิจการติ๊กต๊อกดีกว่าขายให้สหรัฐ
“ไบต์แดนซ์”ยืนยัน ยอมปิดกิจการติ๊กต๊อกดีกว่าขายให้สหรัฐ เพราะอัลกอริทึมที่ติ๊กต๊อกใช้งานถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจโดยรวมของไบต์แดนซ์ ซึ่งทำให้การขายติ๊กต๊อกพร้อมกับอัลกอริทึมดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
แหล่งข่าวระบุว่า อัลกอริทึมที่ติ๊กต๊อกใช้งานถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจโดยรวมของไบต์แดนซ์ ซึ่งทำให้การขายติ๊กต๊อกพร้อมกับอัลกอริทึมดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยว่า ติ๊กต๊อกคิดเป็นสัดส่วนเพียงเล็กน้อยของยอดผู้ใช้งานต่อวันและรายได้ทั้งหมดของไบต์แดนซ์ ดังนั้นในกรณีเลวร้ายที่สุด ไบต์แดนซ์ยอมที่จะปิดแอปในสหรัฐไปเลย ดีกว่าจะขายให้ผู้ที่สนใจซื้อในสหรัฐ โดยการปิดแอปจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อธุรกิจของไบต์แดนซ์ แถมยังได้เก็บอัลกอริทึมหลักไว้อีกด้วย
ด้านไบต์แดนซ์ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นกับรอยเตอร์ อย่างไรก็ดี บริษัทได้ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ผ่านแพลตฟอร์มสื่อ “โถวเถียว” ที่ไบต์แดนซ์เป็นเจ้าของว่า บริษัทไม่มีแผนจะขายติ๊กต๊อกแต่อย่างใด
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นเพื่อแก้ข่าวหลังมีบทความจากเว็บไซต์ “ดิ อินฟอร์เมชัน” ออกมาก่อนหน้านี้ว่า ไบต์แดนซ์กำลังหาทางขายกิจการติ๊กต๊อกในสหรัฐ โดยไม่รวมอัลกอริทึมที่แนะนำวิดีโอต่าง ๆ ให้กับผู้ใช้งานติ๊กต๊อก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (25 เม.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า บริษัทไบต์แดนซ์ เลือกที่จะปิดแอปติ๊กต๊อก มากกว่าที่จะขายให้สหรัฐ หากไม่สามารถต่อสู้กับกฎหมายที่จะแบนติ๊กต๊อกจากแอปสโตร์ต่าง ๆ ในสหรัฐ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (24 เม.ย.) นายโจว โซ่วจือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของติ๊กต๊อกกล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะเป็นฝ่ายชนะในการฟ้องร้องทางกฎหมาย หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายบังคับให้ไบต์แดนซ์ขายกิจการติ๊กต๊อกภายในเวลา 9 เดือน มิฉะนั้นติ๊กต๊อกจะถูกแบนในสหรัฐ
ทั้งนี้ ไบต์แดนซ์ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลทางการเงินของบริษัท หรือรายละเอียดทางการเงินของแต่ละหน่วยธุรกิจ โดยอีกแหล่งข่าวหนึ่งระบุว่า รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทยังคงมาจากประเทศจีน โดยมาจากแอปอื่น ๆ เช่น โต่วอิน ซึ่งเป็นติ๊กต๊อกเวอร์ชันจีน
อีกแหล่งข่าวหนึ่งระบุว่า สหรัฐคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของรายได้ทั้งหมดของติ๊กต๊อกเมื่อปีที่แล้ว
แหล่งข่าวระบุว่าการขายติ๊กต๊อกโดยไม่รวมอัลกอริทึมนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา
ของอัลกอริทึมจดทะเบียนภายใต้ไบต์แดนซ์ในจีน ดังนั้นจึงแยกออกมาจากบริษัทแม่ได้ยาก นอกจากนี้ การแยกอัลกอริทึมออกจากสินทรัพย์ของติ๊กต๊อกในสหรัฐเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง และไบต์แดนซ์ไม่น่าจะเลือกทางนี้
แหล่งข่าวกล่าวว่า ไบต์แดนซ์จะไม่ยอมขาย “สูตรลับ” อันมีค่าอย่างอัลกอริทึมของติ๊กต๊อกให้กิจการคู่แข่ง
ทั้งนี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นอกเหนือจากอัลกอริทึมแล้ว สินทรัพย์หลัก ๆ ของติ๊กต๊อกคือ ข้อมูลผู้ใช้ การดำเนินงานผลิตภัณฑ์ และการจัดการผลิตภัณฑ์
นายสตีเวน มนูชิน อดีตรัฐมนตรีคลังสหรัฐเคยระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่ากำลังรวบรวมนักลงทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการติ๊กต๊อก ขณะที่แหล่งข่าวรายงานว่า ไบต์แดนซ์อาจหาคนซื้อกิจการติ๊กต๊อกในสหรัฐได้ยากหากไม่รวมอัลกอริทึมไว้ด้วย