ประธาน WEF เตือน! เศรษฐกิจโลกส่อตกต่ำสุดรอบ 10 ปี
ประธาน WEF ออกโรงเตือน! เศรษฐกิจโลกส่อตกต่ำสุดรอบ 10 ปี ผลจากภาวะหนี้สินพุ่งและอัตราเงินเฟ้อสูง แนะรัฐบาลใช้มาตรการให้ถูกทาง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานเมื่อวันอาทิตย์ (28 เม.ย.) ว่า นายบอร์เก เบรนเด ประธานการประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) แสดงมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเตือนว่า โลกจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีหากไม่มีการใช้มาตรการทางเศรษฐกิจอย่างถูกต้อง
รายงานระบุว่า นายเบรนเดได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมรอบพิเศษของ WEF ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย โดยการประชุมจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “ความร่วมมือระดับโลก การเติบโต และพลังงานเพื่อการพัฒนา” (Global Collaboration, Growth and Energy for Development)
ทั้งนี้ ประธาน WEF กล่าวว่า อัตราส่วนหนี้สินทั่วโลก (global debt ratios) ในขณะนี้ใกล้แตะระดับสูงสุดตั้งแต่ทศวรรษที่ 1820 และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวแต่เงินเฟ้อกลับสูงขึ้น (Stagflation)
“คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกปีนี้ จะอยู่ที่ราว 3.2% ถึงแม้จะไม่ถือว่าแย่ แต่เราก็ไม่เคยเห็นการเติบโตที่ต่ำเช่นนี้ จากที่เคยเติบโตที่ระดับ 4% มานานหลายทศวรรษ”
นอกจากนี้ นายเบรนเดเสริมว่า มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะชะลอตัวลงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับประเทศเศรษฐกิจสำคัญบางแห่งในช่วงทศวรรษที่ 1970
ส่วนประเด็นวิธีการหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ นายเบรนเดระบุว่า “เราไม่ควรทำสงครามการค้า เพราะเรายังต้องค้าขายซึ่งกันและกัน การค้าโลกจะเปลี่ยนแปลงไป โดยห่วงโซ่อุปทานจะอยู่ในวงแคบเฉพาะประเทศใกล้เคียงและประเทศที่เป็นพันธมิตร แต่เราไม่ควรสูญเสียห่วงโซ่อุปทานโลก”
นอกจากนี้ ประธาน WEF กล่าวว่า ทุกฝ่ายจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาหนี้สินทั่วโลก โดยหนี้สินทั่วโลกอยู่ในระดับสูงสุดตั้งแต่ยุค “สงครามนโปเลียน” (Napoleonic Wars) และตอนนี้ระดับหนี้สินทั่วโลกกำลังใกล้แตะ 100% ของ GDP โลกแล้ว
“รัฐบาลทั่วโลกจำเป็นต้องพิจารณาถึงวิธีการลดหนี้สิน และดำเนินมาตรการทางการคลังที่ถูกต้องโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย ท่ามกลางแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง” นายเบรนเดแนะ
อ้างอิง: CNBC