จีนโหมตุนทอง กูรูคาดอาจเตรียมรับมือคว่ำบาตรหากบุกไต้หวัน

จีนโหมตุนทอง กูรูคาดอาจเตรียมรับมือคว่ำบาตรหากบุกไต้หวัน

การตุนทองคำของจีนมูลค่า 170,400 ล้านดอลลาร์ จุดชนวนความวิตกกังวลว่า จีนเตรียมพร้อมรับการคว่ำบาตรจากตะวันตกหากตัดสินใจบุกไต้หวัน

ธนาคารกลางจีน โหมซื้อทองคำในอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2565 ทำให้ปริมาณทองคำเพิ่มเป็นหลายร้อยตัน ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การตุนทองอาจหมายถึงการเตรียมการปกป้องเศรษฐกิจ จากการถูกคว่ำบาตรของชาติตะวันตกในกรณีที่บุกไต้หวัน

สภาทองคำโลก รายงานว่า ปัจจุบันจีนถือครองทองคำ 2,262 ตัน มูลค่า 170,400 ล้านดอลลาร์ และลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่ากว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา

นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ด้วยว่า จีน อาจถือครองทองคำในปริมาณที่มากกว่าที่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ ทั้งยังมีความพยายามลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบ่งชี้ว่าเพื่อหวังจะบรรเทาผลกระทบจากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากชาติตะวันตก

การคาดการณ์ในเรื่องนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับไต้หวัน, ฟิลิปปินส์ และพันธมิตรอื่น ๆ ของสหรัฐในทะเลจีนใต้ ที่ยังคงร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อเครื่องบินทหารจีนได้แสดงพฤติกรรมคุกคามไต้หวันหลายครั้ง 
 

เมื่อวันเสาร์ (27 เม.ย.) กระทรวงกลาโหมไต้หวัน ระบุว่า ตรวจจับเครื่องบินทหารของจีน 22 ลำ รวมทั้ง ซู-30 (Su-30) ซึ่งในจำนวนนี้ 12 ลำ บินข้ามเส้นมัธยฐานบริเวณช่องแคบไต้หวัน ที่คั่นระหว่างจีนกับไต้หวัน แต่จีนไม่เคยยอมรับการมีอยู่ของเส้นนี้ และ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็ย้ำมาโดยตลอดว่ามีความปรารถนาที่จะรวมไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่อาจต้องใช้กำลังถ้าจำเป็น

การตุนทองคำของจีน อาจเป็นเพราะเห็นตัวอย่างจากรัสเซียที่ถูกอายัดทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ ในยุโรปและสหรัฐที่ส่งผลกระทบรุนแรงด้านการเงินให้แก่รัสเซีย ที่กำลังอยู่ระหว่างการทำสงครามในยูเครน แต่รัสเซียก็ถือครองทองคำในจำนวนมหาศาลเช่นกัน ซึ่งมีประโยชน์ในยามที่ไม่สามาถเข้าถึงเงินสำรองอื่น ๆ ได้