‘มาเลเซีย’ เนื้อหอม Microsoft จ่อลงทุน 'เอไอ - คลาวด์' 81,000 ล้านบาท
ไมโครซอฟท์ประกาศลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเอไอและคลาวด์ในมาเลเซีย 2,200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 81,000 ล้านบาท พร้อมจัดอบรมฝึกการใช้เอไอให้กับชาวมาเลเซีย 200,000 คน
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศลงทุนปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) และคลาวด์คอมพิวติง ในมาเลเซีย 2,200 ล้านดอลลาร์ หรือราว 81,000 ล้านบาท เพื่อช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเอไอในประเทศ
“สัตยา นาเดลลา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ไมโครซอฟท์ อยู่ในระหว่างการเยือน 3 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย เพื่อประกาศเม็ดเงินลงทุนตั้งศูนย์ข้อมูล เอไอ และบริการคลาวด์
ตามแถลงการณ์ที่เผยแพร่ ขณะที่นาเดลลากล่าวสุนทรพจน์ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระบุว่า วันนี้ (2 พ.ค.) ไมโครซอฟท์ประกาศเตรียมลงทุน 2,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 81,000 ล้านบาท) ในอีก 4 ปีข้างหน้า เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นเม็ดเงินลงทุนที่มากที่สุดในรอบ 32 ปี
รายงานดังกล่าวระบุ เงินลงทุนจะช่วยสร้างโครงสร้างพื้นฐานเอไอและคลาวด์ในมาเลเซีย สร้างศูนย์ความเป็นเลิศด้านเอไอ และฝึกการใช้เอไอให้กับชาวมาเลเซีย 200,000 คน
“เรามีความมุ่งมั่นสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของมาเลเซีย และเพื่อให้มั่นใจว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมาเลเซียทุกคน” นาเดลลา กล่าว “การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และพัฒนาทักษะ (แรงงาน) ของเราจะช่วยธุรกิจมาเลเซีย, ชุมชน, และผู้พัฒนา นำเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดไปใช้ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ”
นอกจากนี้ นาเดลลาระบุด้วยว่า บริษัทต้องการสร้างความมั่นใจว่าการสร้างโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกในมาเลเซีย ทำให้หลายองค์กร นักพัฒนาซอฟต์แวร์หลายราย และสตาร์ตอัปหลายแห่ง สามารถใช้เทคฯของไมโครซอฟท์ ไม่ใช่แค่พัฒนาประเทศ แต่เพื่อพัฒนาโลกและภูมิภาค
การประกาศลงทุนในมาเลเซียล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากนาเดลลาประกาศลงทุน 1,700 ล้านดอลลาร์ (ราว 63,000 บาท) ในอินโดนีเซีย รวมถึงลงทุนศูนย์ข้อมูลแห่งแรกในไทยในสัปดาห์นี้ เพื่อเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และเอไอ
ในรายงานแถลงการณ์ อ้างอิงผลวิจัยจากเคียร์นีย์ (Kearney) ธุรกิจที่ปรึกษาระดับโลก ว่า เอไอช่วยหนุนผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในปี 2573 และคาดว่า มาเลเซียจะมีสัดส่วนจีดีพีราว 10% จากจีดีพีภูมิภาค
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์เริ่มดำเนินธุรกิจในมาเลเซียเมื่อปี 2535 และขณะนี้มีพนักงานในกัวลาลัมเปอร์และรัฐปีนังมากกว่า 200 คน
ไมโครซอฟท์มีผลประกอบการในเดือน ม.ค. - มี.ค. 2567 เติบโต 17% จากปีก่อน สู่ระดับ 61,900 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 20% สู่ระดับ 21,900 ล้านดอลลาร์ โดยความนิยมเอไอ ได้หนุนยอดขายบริการคลาวด์ที่สำคัญของไมโครซอฟท์มากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจ Azure ที่กลายเป็นธุรกิจหลักของบริษัทไปแล้ว