ขาดทุนทำเรื่อง ! ‘ดิสนีย์’ ปรับแผนฉาย Marvel เหลือ 3 เรื่องต่อปี ขอเน้นคุณภาพ
วอลท์ ดิสนีย์ ประกาศเหลือฉายภาพยนตร์ Marvel สูงสุด 3 เรื่องต่อปี และออกซีรีส์ใน Disney+ สูงสุด 2 เรื่องต่อปี ขอเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพ
บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ ประกาศเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ว่า จะฉายภาพยนตร์ของมาร์เวล (Marvel) ปีละไม่เกิน 3 เรื่อง และออกซีรีส์ทางดิสนีย์พลัส (Disney+) สูงสุด 2 เรื่องต่อปี เพื่อมุ่งเน้นทำผลงานอย่างมีคุณภาพ
สำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์รายงานว่า การประกาศดังกล่าวจาก "บ็อบ ไอเกอร์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ดิสนีย์ มีขึ้นขณะที่ราคาหุ้นของดิสนีย์ร่วงลง 8% ในการซื้อขายวานนี้ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส
โดยปีนี้จะมีภาพยนตร์มาร์เวลเข้าฉายเพียงเรื่องเดียวคือ “Deadpool and Wolverine” นำแสดงโดย ไรอัน เรย์โนลส์ และ ฮิวจ์ แจ็คแมน ซึ่งมีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 26 ก.ค.นี้
ตามข้อมูลการนำเสนอผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดของดิสนีย์ เรื่องถัดไปของมาร์เวลอย่างหนังภาคต่อของกัปตันอเมริกาจะยังไม่เข้าฉายจนกว่าจะถึงอย่างน้อยเดือนก.พ. 2568 ขณะที่เรื่อง “Thunderbolts” ซึ่งเป็นหนังเกี่ยวกับบัคกี้ บาร์นส์ คู่หูกัปตันอเมริกา มีกำหนดเข้าฉายในเดือนพ.ค. 2568
นอกจากนี้ ดิสนีย์ยังมีคอนเทนต์มาร์เวลออกฉายในดิสนีย์พลัส รวมถึงคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับแบล็ค แพนเธอร์ และสไปเดอร์แมน แต่โปรเจกต์เหล่านี้ยังไม่มีกำหนดฉาย
“ผมทำงานอย่างหนักกับสตูดิโอเพื่อลดปริมาณ แล้วเน้นคุณภาพมากขึ้น” ไอเกอร์กล่าวในการประชุมผลประกอบการประจำไตรมาสของบริษัทเมื่อวันอังคาร (7 พ.ค.)
“โดยเฉพาะมาร์เวล … บางเรื่องที่กำลังจะฉายนั้นเป็นผลจากความต้องการในอดีตที่จะเพิ่มปริมาณหนัง เราจะค่อย ๆ ลดปริมาณลง และอาจจะมีซีรีส์ประมาณ 2 เรื่องต่อปี แทนที่จะเป็น 4 เรื่องตามเดิม และลดจำนวนภาพยนตร์จากเดิมราว 4 เรื่องต่อปี เหลือ 2 เรื่อง สูงสุด 3 เรื่อง เรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อดำเนินตามแนวทางนั้น”
นอกจากนี้ ไอเกอร์ยังประกาศด้วยว่า บริษัทมีแผนเพิ่มรายได้จากการจำกัดการแชร์รหัสผ่านในดิสนีย์พลัส โดยได้เริ่มมาตรการนี้ไปแล้วบนแพลตฟอร์ม Hulu และเคยส่งสัญญาณว่าจะเริ่มจัดการกับการแชร์รหัสบัญชีตั้งแต่เดือนมิ.ย.นี้
ทั้งนี้ รายได้ของดิสนีย์ในไตรมาสล่าสุดอยู่ที่ 22,080 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่ยอดสมาชิกดิสนีย์พลัสอยู่ที่ 153.6 ล้านราย ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเช่นกัน