ไบเดนจ่อขึ้นภาษี 'รถอีวีจีน' 4 เท่า! ตั้งการ์ดสูงทะลุ 100%
สื่อนอกเผย 'ไบเดน' จ่อขึ้นภาษีรถอีวีจีนเป็น 4 เท่า พุ่งไปแตะ 102.5% หวังปกป้องอุตฯ รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเต็มที่ แต่คาดกำแพงภาษีจีนรอบใหม่นี้อาจไม่รวมโซลาร์เซลล์บางรายการ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมจะขึ้นภาษีรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) นำเข้าจากจีนเพิ่มเป็น 4 เท่า จากระดับปัจจุบันที่ 27.5% ซึ่งจะส่งผลให้อัตราภาษีรถอีวีจีนพุ่งไปแตะ 102.5% ในการเปิดเผยรายละเอียดการทบทวนเรื่อง กำแพงภาษีสินค้าจีนที่คาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้
แหล่งข่าวระบุว่านอกจากรถยนต์อีวีแล้ว สินค้านำเข้าหลายรายการในอุตสาหกรรมเป้าหมายอาจถูกขึ้นภาษี 2-3 เท่า จากอัตราเดิมด้วย
ทั้งนี้ ไบเดนมีแผนจะแถลงที่ทำเนียบขาวเรื่องการทบทวนมาตรการกำแพงภาษีกับจีนหลังจากตั้งเรื่องศึกษามานานเกือบ 2 ปี โดยจะเป็นทั้งมาตรการภาษีเดิมจากยุคของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรายการสินค้าใหม่ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ ที่อาจจะโดนการตั้งกำแพงเพิ่ม เพื่อปกป้องแรงงานชาวอเมริกันในประเทศ
แหล่งข่าวระบุว่า ไบเดนและทีมใช้เวลาตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหาข้อสรุปในมาตรการต่างๆ ผ่านการลงมติเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงการเลือกที่จะขึ้นหรือไม่ขึ้นสินค้าตัวใดบ้าง เนื่องจากสินค้านำเข้าจากจีนบางรายการยังจำเป็นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ
แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าสินค้ารายการใดจะได้รับการยกเว้นขึ้นภาษี แต่ที่แน่นอนก็คือจะไม่มีสินค้าใดๆ ที่ได้รับการลดภาษีลง
ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐได้ส่งสัญญาณไปยังอุตสาหกรรม "โซลาร์เซลล์" ว่า อาจยกเว้นการขึ้นภาษีสินค้าบางรายการในอุตสาหกรรมนี้ซึ่งรวมถึงเครื่องจักรในการผลิตอุปกรณ์แผงโซลาร์ ภายหลังได้รับเสียงเตือนว่าอัตราภาษีในปัจจุบันอาจกระทบเป้าหมายของไบเดนที่จะงัดข้อกับห่วงโซ่อุปทานพลังงานสะอาดจากจีน
ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ปธน. ประเด็น 'จีน' ยิ่งระอุ
ประเด็นนี้ยังมีขึ้นในขณะที่ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024 ใกล้มาถึงในเดือน พ.ย.นี้ โดยไบเดนพยายามที่จะงัดข้อกับ "จีน" พร้อมกับทำให้ "แตกต่าง" ไปจากยุคของทรัมป์ ที่ใช้การตั้งกำแพงภาษีสินค้าจีนครั้งใหญ่มูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ในการทบทวนเรื่องภาษีดังกล่าว คาดว่าไบเดนน่าจะต่ออายุการบังคับใช้ออกไป แต่อาจจะไม่ไปไกลมากกว่านั้น
เกรธา เพช หุ้นส่วนของบริษัทกฎหมายไวลีย์ รีน และอดีตทนายผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าในสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) กล่าวว่า รัฐบาลไบเดนมุ่งเน้นไปยังอุตสาหกรรมที่มีความกังวลในระยะยาวมากกว่า
"มาตรการเหล่านี้ถูกคิดคำนวณมาแล้วเพื่อจัดการกับปัญหาและความเสี่ยงบางอย่างโดยเฉพาะ แต่ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงไม่ให้เรื่องนี้บานปลายออกไป เพื่อยังคงรักษาความสัมพันธ์กับจีนที่มีอยู่" เพชกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทำเนียบขาวยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้ บลูมเบิร์กได้รายงานอ้างแหล่งข่าวในทำนองเดียวกันว่า ไบเดนอาจแถลงเรื่องนี้ในวันอังคารที่ 14 พ.ค.ตามเวลาในสหรัฐ โดยสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายนั้นครอบคลุมตั้งแต่รถอีวี แบตเตอรี่ โซลาร์เซลล์ เหล็กกล้าและอะลูมิเนียม ขณะที่ก่อนหน้านี้ไบเดนเคยกล่าวระหว่างการหาเสียงว่า ต้องการให้มีการขึ้นภาษีเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมบางรายการเป็น 25% จากเดิมที่อัตรา 7.5% หรือไม่มีเลย
ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวระหว่างการหาเสียงในรัฐนิวเจอร์ซีย์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า รถอีวีจีนพยายามหลีกเลี่ยงภาษีของสหรัฐด้วยการไปผลิตในประเทศเม็กซิโก ซึ่งมีข้อตกลงการค้าเสรี 3 ชาติระหว่างสหรัฐ เม็กซิโก และแคนาดา (USMCA) ดังนั้นหากตนชนะได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง จะประกาศตั้งกำแพงภาษี 200% กับรถจีนที่ผลิตในเม็กซิโก และจะตั้งกำแพงภาษี 60% กับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด