จับตา 'โควิดสายพันธุ์ FLiRT' รุ่นหลาน 'โอมิครอน' จ่อระบาดเพิ่มในฤดูร้อน

จับตา 'โควิดสายพันธุ์ FLiRT' รุ่นหลาน 'โอมิครอน' จ่อระบาดเพิ่มในฤดูร้อน

โควิดสายพันธุ์ใหม่ "FLiRT" ซึ่งเป็นรุ่นหลานของโอมิครอนกำลังระบาดทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐและยุโรป คาด อาจแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในฤดูร้อนนี้ ด้านผู้เชี่ยวชาญต้องจับตาดูผลกระทบของสายพันธุ์อย่างใกล้ชิด

สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก และทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดโควิดที่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูร้อน

โควิดกลุ่มสายพันธุ์ FLiRT กำลังเป็นกลุ่มสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเพิ่มขึ้นในสหรัฐและยุโรป เนื่องจากโควิดยังคงกลายพันธุ์จากสายพันธุ์ก่อนหน้านี้อย่างต่อเนื่อง และกลุ่มสายพันธุ์ใหม่นี้ เป็นรุ่นลูกของสายพันธุ์ JN.1 ที่กลายพันธุ์มาจากโอมิครอน หรือเรียกได้ว่าเป็น "รุ่นหลานของโอมิครอน" อีกที

จากข้อมูลของ John Hopkins Bloomberg School of Public Health ระบุว่า แม้ขณะนี้มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่บ่งบอกว่า กลุ่มสายพันธุ์ FLiRT มีความรุนแรงมากขึ้นจากสายพันธุ์ก่อนหน้า แต่ดูเหมือนว่าโควิดสายพันธุ์ใหม่นี้ กลายพันธุ์จากเชื้อตัวเดิมอย่างอิสระ

ตามข้อมูลล่าสุดของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐ (ซีดีซี) พบว่า ขณะนี้สหรัฐมีโควิดสายพันธุ์ KP.2 ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสายพันธุ์ FLiRT แพร่ระบาดเป็นส่วนใหญ่ โดยคิดเป็นสัดส่วน 28.2% จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในช่วง 2 สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 พ.ค. โดยเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนม.ค. 3.8% ในระยะเวลาไม่นาน หลังจากพบสายพันธุ์นี้ครั้งแรก

ส่วนกรณีโควิดสายพันธุ์ KP.1.1 ที่เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ในกลุ่ม FLiRT นั้น มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น 7.1% และในยุโรปก็มีผู้ติดเชื้อโควิดชนิดดังกล่าวเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งตอนนี้สายพันธุ์ใหม่ได้แพร่กระจายไปแล้ว 14 ประเทศ

จากข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ในเดือนนี้ ระบุว่า การติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่ยังคงจำกัดอยู่ในประเทศที่เปิดเผยข้อมูล อย่างไรก็ตาม ข้อมูลแต่ละประเทศล้วนแสดงให้เห็นว่ามีการติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับที่ต่ำมาก

ด้านสำนักงานหลักประกันสุขภาพอังกฤษ เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า หน่วยงานกำลังจับตาดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโควิดสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษ และในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินความรุนแรง และประสิทธิผลของวัคซีน แต่คำแนะนำด้านสาธารณสุขต่อประชาชนเป็นวงกว้างนั้น ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

เจนนิเฟอร์ ฮอร์นีย์” ศาสตราจารย์ภาควิชาระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยเดลาแวร์ คาดว่า ปัจจุบันโควิดสายพันธุ์ใหม่ไม่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดติดเชื้อครั้งใหญ่เหมือนในอดีตที่เกิดขึ้นในช่วงภูมิคุ้มกันของประชาชนลดลง แต่เธอย้ำว่า โควิดสายพันธุ์ใหม่อาจนำไปสู่การติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้

“คนจำนวนมากจะไม่มีอาการรุนแรง ซึ่งขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของเราที่ยังมีอยู่ และ (สายพันธุ์ FLiRT) จะไม่เปลี่ยนเป็นสายพันธุ์ที่คล้ายคลึงกับที่มีอยู่เดิม (circulating strain)” ฮอร์นีย์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนจะจับตาดูอย่างใกล้ชิดต่อไปว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพต่อต้านโควิดสายพันธุ์ใหม่มากเพียงใด

 

อ้างอิง: CNBC