ยอดจีนเที่ยวต่างประเทศไม่ฟื้น เหตุ 'วีซ่าช้า ค่าใช้จ่ายสูง เที่ยวบินไม่พอ'

สำนักข่าวเซาท์ ไชนา มอร์นิง โพสต์ รายงานว่า หลังจากรัฐบาลปักกิ่งยกเลิกนโยบายควบคุมโควิดที่เข้มงวดในไตรมาสแรกของปี 2566 ผู้บริโภคชาวจีนหลายล้านคนก็หันมา “ใช้จ่ายกันแบบล้างแค้น” โดยผู้คนแห่ออกไปเที่ยวและเสพความบันเทิงกันอย่างบ้าคลั่ง ส่งผลให้โรงแรม สายการบิน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และร้านอาหารทั่วจีนแผ่นดินใหญ่รายได้พุ่ง แต่การท่องเที่ยวต่างประเทศกลับเงียบเหงา

ตามข้อมูลจากสถาบันการท่องเที่ยวแห่งชาติจีน (China Tourism Academy) พบว่า ในปี 2566 ชาวจีนออกไปเที่ยวต่างประเทศเพียง 87 ล้านคน ต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในปี 2562 ที่ชาวจีนไปต่างประเทศ 155 ล้านคน

“เจน ซัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ทริป.คอม (Trip.com) เผยว่า หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 การเดินทางไปต่างประเทศของชาวจีนยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ เพราะมีสาเหตุมาจากการออกวีซ่าล่าช้า และเที่ยวบินไม่เพียงพอต่อความต้องการเดินทาง

“ฉันหวังว่าอุปสรรค 2 อย่างนี้จะบรรเทาลง และเราจะสามารถพาลูกค้าชาวจีนเดินทางไปยังประเทศอื่น ๆ ได้มากขึ้น” เจน ซัน กล่าว

ซีอีโอทริป.คอม เผยว่า ชาวจีนที่วางแผนจะไปเที่ยวเยอรมนี ปัจจุบันต้องรอวีซ่าอย่างน้อย 4 เดือน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเรียกไปสัมภาษณ์ ส่วนวีซ่าที่ออกล่าช้า ทำให้นักท่องเที่ยวในจีนแผ่นดินใหญ่ ไม่สามารถเดินทางไปสหรัฐได้หลายพันคน

ขณะที่เที่ยวบินต่างประเทศมีให้บริการเพียงระดับ 70% ของช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 และมีแนวโน้มแตะระดับเพียง 80% ภายในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมเที่ยวในประเทศมากกว่าเที่ยวต่างประเทศ

โดยซีเอ็นบีซีได้เปิดเผยผลสำรวจของบริษัทที่ปรึกษา Oliver Wyman ในเดือนนี้ พบว่า ครัวเรือนจีนรายได้สูงที่เที่ยวต่างประเทศในปีก่อน มีแผนเที่ยวต่างประเทศอีกครั้งในปีนี้ เพียง 14% ซึ่งผลสำรวจดังกล่าวเก็บข้อมูลจากครอบครัวชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีรายได้อย่างน้อย 30,000 ต่อเดือน (ราว 155,000 บาท)

สาเหตุหลักที่ชาวจีนกลุ่มนี้นิยมเที่ยวในประเทศ เพราะในจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย รองลงมาเป็นเพราะ การท่องเที่ยวต่างประเทศมีค่าใช้จ่ายมากเกินไป

Oliver Wyman เผยว่า ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวภายในจีนแผ่นดินใหญ่ต่อคนนั้นน้อยกว่า 1,000 หยวน ขณะที่การท่องเที่ยวในฮ่องกงหรือญี่ปุ่นมีค่าใช้จ่ายหลายพันหยวน

ขณะที่ทริป.คอม เว็บไซต์จองเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเผยว่า ในปี 2566 ยอดจองท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางตามเมืองชนบทในจีนเติบโต 2.6 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19

จากข้อมูลทางการพบว่า ในช่วงวันหยุด 1 พ.ค. ถึง 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ทริปท่องเที่ยวภายในประเทศและรายได้จากการท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเทียบระดับก่อนเกิดโควิดในปี 2562 โดยเมืองขนาดเล็ก เช่น หยาวโจว, ลกเอี๋ยง, ชินหวงเต่า, กุ้ยหลิน, และจือปั๋ว มียอดจองท่องเที่ยวเติบโตรวดเร็วที่สุดในช่วงวันหยุดยาวเดือน พ.ค. ขณะที่การเดินทางไปต่างประเทศลดลงต่ำกว่าระดับในปี 2562

แอชลีย์ ดูดาเรน็อก ผู้ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางดิจิทัล ChoZan คาดว่า การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีน อาจต้องใช้เวลามากกว่านี้ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจาก ชาวจีนรู้สึกว่าที่เที่ยวอื่นๆ ทั่วโลกเผชิญกับความปั่นป่วน และไม่ปลอดภัยมากขึ้นในปีนี้

 

อ้างอิง: CNBC, South China Morning Post