IATA คาดอุตฯ การบินโลกปีนี้สดใส จ่อกำไรทะยาน 3 หมื่นล้านดอลลาร์

สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า ในปีนี้อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกจะสามารถทำกำไรได้ถึง 3.05 หมื่นล้านดอลลาร์ (ราว 1.1 ล้านล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 2.74 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากปัจจัยราคาตั๋วเครื่องบินที่แพงขึ้น และความต้องการเดินทางอย่างต่อเนื่องหลังการระบาดของโควิด

ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้ถือเป็นการปรับตัวดีขึ้นจากคาดการณ์เดิมเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง IATA ประเมินไว้ที่ 2.57 หมื่นล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงทิศทางที่สดใสของอุตสาหกรรมการบินโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 นี้

อย่างไรก็ตาม IATA เตือนด้วยว่าแม้กำไรจะสูงขึ้น แต่สายการบินต่างๆ ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นด้วยซึ่งเป็นตัวสกัดการทำกำไรต่อผู้โดยสารให้อยู่ที่เฉลี่ยเพียง 6.14 ดอลลาร์ต่อผู้โดยสารเท่านั้น   

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกยังอยู่ในช่วงพยายามกลับมาฟื้นตัวทำกำไรหลังจากที่เคยถูกกระทบอย่างหนักจากช่วงโควิด แม้ปัจจุบันปริมาณผู้โดยสารจะกลับมาฟื้นตัวดีแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาต่างๆ เช่น การขาดแคลนเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (SAF) ไปจนถึงปัญหาทางธุรกิจกับจีนโดยเป็นผลกระทบสืบเนื่องมาจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาการขาดแคลนเครื่องบินใหม่

วิลลีย์ วอลช์ ผู้อำนวยการไออาตา กล่าวว่าทั้งบริษัทโบอิ้งและแอร์บัสซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของโลกจากสหรัฐและยุโรปนั้น ต่างก็กำลังพยายามสร้างเครื่องบินใหม่ให้เร็วเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งสายการบินทั่วโลกต่างมีคำสั่งซื้อเครื่องบินใหม่หลายร้อยลำ

หากแบ่งตามภูมิภาคแล้ว IATA คาดการณ์ว่าตลาดอเมริกาเหนือจะสามารถทำกำไรได้มากที่สุด 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามมาด้วยตลาดยุโรป 9 พันล้านดอลลาร์ และตะวันออกกลาง 3.8 พันล้านดอลลาร์

ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศในภูมิภาค "เอเชีย" นั้นยังคงอ่อนแรงเนื่องจากแรงฉุดจาก "จีน" โดยการเดินทางระหว่างประเทศของชาวจีนยังอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงปกติก่อนยุคโควิด