เลือกตั้งสภาอียู สะเทือนอนาคตการเมืองยุโรป l World in Brief
พรรคขวาจัดในประเทศต่างๆ ของยุโรป ได้รับเลือกตั้งเข้าไปนั่งในสภายุโรปมากขึ้น ถือเป็นสัญญาณที่ต้องจับตา ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ตอบรับกระแสความพ่ายแพ้ด้วยการยุบสภา ขณะที่รัฐมนตรีสายกลางอิสราเอลนำพรรคถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล
- พรรคขวาจัดมาแรงเลือกตั้งสภาอียู
การเลือกตั้งสมาชิกสภาสหภาพยุโรป (อียู) ที่ปิดฉากลงในวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) แม้พรรคสายกลาง สายเสรีนิยม และสังคมนิยมส่อเค้าครองเสียงข้างมากในสภาที่มีทั้งหมด 720 ที่นั่ง แต่พรรคขวาจัดก็ทำคะแนนได้เพิ่มขึ้นมาก เพิ่มความไม่แน่นอนต่อทิศทางการเมืองของยุโรปในอนาคต โดยเฉพาะในฝรั่งเศสและเยอรมนี ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า มหาอำนาจแห่งยุโรปจะดำเนินนโยบายในอียูอย่างไร
พ่ายพรรคขวาจัด ‘มาครง’ ยุบสภา
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เดิมพันอนาคตทางการเมือง ตัดสินใจยุบสภาเมื่อวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายในเดือนนี้ หลังพ่ายเลือกตั้งสมาชิกสภายุโรปให้กับเนชันแนลแรลลี (อาร์เอ็น) พรรคขวาจัดของนางมารีน เลอแปง มาครงแถลงต่อประชาชนว่า ผลการเลือกตั้งอียูส่งผลต่อรัฐบาลของเขาจนมิอาจเพิกเฉยได้ โดยการเลือกตั้ง ส.ส.จะมีขึ้นในวันที่ 30 มิ.ย. รอบสองวันที่ 7 ก.ค.
ทั้งนี้ การเลือกตั้งมีขึ้นก่อนฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกไม่ถึงสองเดือน หากพรรคอาร์เอ็นได้เสียงข้างมากในสภา มาครงก็แทบทำกิจการภายในประเทศไม่ได้เลย
- น่าห่วง! พรรคสายกลางถอนตัวรัฐบาลเนทันยาฮู
นายเบนนี แกนต์ซ ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (9 มิ.ย.) ลาออกจากการเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลฉุกเฉินอิสราเอลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู เท่ากับว่าพรรคสายกลางเพียงพรรคเดียวได้ถอนตัวออกไปจากรัฐบาล แม้การลาออกของนายแกนต์ซไม่ได้ส่งผลสะเทือนให้กับรัฐบาลนายเนทันยาฮูในทันที แต่ก็มีความเสียหายร้ายแรงทำให้นายเนทันยาฮูต้องพึ่งพาพรรคการเมืองสายแข็งเพียงอย่างเดียว สงครามกาซาจึงยังไม่มีแววยุติ และเป็นไปได้ว่าจะยกระดับไปสู้รบกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนด้วย