แบงก์ชาติจีนประกาศลดดอกเบี้ย LPR หวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง GDP ไตรมาส 2 ชะลอตัว

แบงก์ชาติจีนประกาศลดดอกเบี้ย LPR หวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลัง GDP ไตรมาส 2 ชะลอตัว

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี สู่ระดับ 3.35% จากระดับ 3.45% หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์

ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีลงสู่ระดับ 3.35% จากระดับ 3.45% และ ลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลงสู่ระดับ 3.85% จากระดับ 3.95% ในวันนี้ (22 ก.ค.) สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะคงอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้งสองประเภทไว้ที่ระดับเดิม

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

การประกาศ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ในวันนี้ มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP จีน) ประจำไตรมาส 2/2567 ของจีนขยายตัวเพียง 4.7% ในไตรมาส 2/2567 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.1% และชะลอตัวลงจากไตรมาส 1/2567 ที่มีการขยายตัว 5.3%

นอกจากนี้ การประกาศลดอัตราดอกเบี้ย LPR ยังมีขึ้นหลังการประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 20 ครั้งที่ 3 (Third Plenum) เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจในเชิงลึกอย่างครอบคลุม เพื่อผลักดันให้จีนมีความทันสมัยมากขึ้น

ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการปฏิรูปในเชิงลึก ท่ามกลางความท้าทายในด้านต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงยืดเยื้อ นอกจากนี้ ที่ประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีมติปรับปรุงแนวทางผลักดันให้จีนมีความทันสมัย (Chinese Modernization) ซึ่งเป็นโมเดลการพัฒนาที่แตกต่างไปจากประเทศในฝั่งตะวันตก พร้อมระบุว่า ความมั่นคงของชาติถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นว่าโมเดลการสร้างจีนให้มีความทันสมัยจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยโมเดลดังกล่าวริเริ่มโดย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในระหว่างการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนเมื่อเดือนต.ค. 2565