'จีน' อัดงบเพิ่ม 1.5 ล้านล้าน อุ้มอุตสาหกรรมยานยนต์ เพิ่มขีดแข่งขันกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานวันนี้ (25 ก.ค.) รัฐบาลจีน เตรียมขยายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเพิ่มเงินอีกประมาณ 3 แสนล้านหยวน หรือ 4.15 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) เพื่ออุดหนุนการซื้อรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มค้าปลีกที่ซบเซา

คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติและกระทรวงการคลังประกาศร่วมกันวันนี้ว่า เม็ดเงินกระตุ้นดังกล่าวจะมาจากการระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรพิเศษแบบระยะยาว จำนวน 1 ล้านล้านหยวน

เงินอุดหนุนสำหรับผู้ที่นำรถยนต์นั่งส่วนบุคคลมาแลกซื้อยานยนต์พลังงานทางเลือกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าคืออยู่ที่ 20,000 หยวน เทียบกับเงินอุดหนุน 10,000 หยวนที่ประกาศไว้ในเดือนเม.ย. ส่วนเงินอุดหนุนการนำรถยนต์คันเก่าไปแลกซื้อรถยนต์สันดาปภายในจะเพิ่มขึ้นเป็น 15,000 หยวนจาก 7,000 หยวน

บทวิเคราะห์ของนิกเคอิ เอเชีย คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องของจีนจะมีสัดส่วนเกือบ 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขณะที่ยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศในเดือนมิ.ย.ลดลงต่ำกว่าระดับของปีก่อนหน้าเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน

"การบริโภคยังไม่ได้รับการกระตุ้นอย่างเพียงพอในขณะที่การแข่งขันในตลาดมีความรุนแรงมากขึ้น" เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศให้สัมภาษณ์กับนิกเคอิ เอเชีย

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นเกี่ยวกับกำลังการผลิตส่วนเกินของรถยนต์ไฟฟ้าและยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งนำไปสู่การส่งสินค้าคงคลังส่วนเกินไปขายในต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเชื่อว่า รัฐบาลจีนอยู่ในช่วงเปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เพื่อสนับสนุนอุปสงค์ภายในประเทศและต้านทานแรงกดดันจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ เงินอุดหนุนดังกล่าวยังสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคด้วย ซึ่งที่ผ่านมายอดขายภายในประเทศซบเซาเนื่องจากการชะลอตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ โครงการนี้จะมุ่งเป้าไปที่สินค้า 8 ประเภท ได้แก่ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

รัฐบาลจะให้เงินช่วยเหลือการซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ข้างต้น 15% ของราคาสูงสุด แต่ไม่เกิน 2,000 หยวนโดยสามารถใช้สิทธิ์ซื้อสินค้าได้เพียงครั้งเดียวสำหรับแต่ละหมวดสินค้าทั้ง 8 ประเภท

ท้ายที่สุด โรงงานผลิตสินค้าดังกล่าวก็ยังได้รับเงินสนับสนุนด้วย โดยมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงอุปกรณ์ในภาคอุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม การขนส่ง และโลจิสติกส์

อ้างอิง: Asia Nikkei